30.9 C
Bangkok
Sunday, September 8, 2024

ภูเก็ตกลายเป็นตฃาดที่มีการแข่งขันสูงมากในตอนนี้

สำหรับที่ภูเก็ตแล้วตอนนี้กลายเป็นจังหวัดที่ผู้ประกอบการรายใหญ่ รายกลาง และผู้ประกอบการท้องถิ่นเดินหน้าเปิดโครงการใหม่ต่อเนื่อง

ผู้ประกอบการรายใหญ่อย่างแสนสิริ ศุภาลัย ซึ่งมีทั้งโครงการบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียม โดยเปิดขายกันมาหลายปีมากแล้วไม่ใช่แค่ช่วง 2 – 3 ปีมานี้ หลายโครงการของพวกเขาปิดการขายและโอนกรรมสิทธิ์มานานแล้ว และล่าสุดเพิ่งเปิดขายโครงการใหม่กันต่อเนื่องทั้งในปีที่ผ่านมา

และปีพ.ศ.2566 แลนด์แอนด์เฮ้าส์ เปิดขายโครงการบ้านจัดสรรหลายระดับราคาตั้งแต่ต่ำกว่า 10 ล้านบาทต่อยูนิตขึ้นไปถึงมากกว่า 30 ล้านบาทต่อยูนิตในภูเก็ตมาหลายปีแล้วเช่นกัน และอาจจะมีโครงการใหม่ในอนาคต

พฤกษา เรียลเอสเตทก็มีโครงการบ้านจัดสรรหลายโครงการ หลายรูปแบบและระดับราคาในภูเก็ตเพื่อรองรับกำลังซื้อที่แตกต่างกัน

ผู้ประกอบการรายใหญ่อีกรายอย่างซีพีเอ็น เรสซิเด้นซ์ ก็มีการเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมโครงการแรกในภูเก็ตในช่วงระดับราคา 3 – 6 ล้านบาทต่อยูนิต  

โครงการบ้านจัดสรรของผู้ประกอบการหลายรายอาจจะเน้นไปที่กำลังซื้อคนไทย โดยเน้นทำเลที่อยู่ในพื้นที่เมืองของภูเก็ต แต่ก็มีผู้ประกอบการบางรายที่ต้องการกำลังซื้อต่างชาติ โดยเปิดขายโครงการ Branded Residence เช่น

ไรมอนแลนด์ ที่ร่วมกับ โรจนะ พร็อพเพอร์ตี้ เพื่อพัฒนาโรงแรม และโครงการที่อยู่อาศัยระดับ Luxury ในรูปแบบ Branded Residence บนที่ดินขนาดประมาณ 50 ไร่ที่กมลา เป็นโครงการ Rosewood Residences Kamala

ลากูน่า พร็อพเพอร์ตี้ ผู้ประกอบการรายใหญ่ของภูเก็ตที่มีที่ดินขนาดใหญ่ และพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยหลายรูปแบบ หลายระดับราคา คอนโดมิเนียมที่ระดับราคาตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไปถึงมากกว่า 70 ล้านบาทต่อยูนิต และยังมีการพัฒนาโรงแรม รีสอร์ตอีกหลายแห่ง หลายระดับราคาเช่นกัน

ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ก็ประกาศว่าปีพ.ศ.2566 ใช้งบซื้อที่ดินในจังหวัดภูเก็ตไปกว่า 2,000 ล้านบาทมากที่สุดเมื่อเทียบกับจังหวัดอื่นๆ ที่ไม่ใช่กรุงเทพมหานคร โดยจะเปิดโครงการใน 5 ทำเลทางฝั่งตะวันตกของภูเก็ต โดยจะพัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูส ซึ่งประกอบไปด้วยส่วนที่เป็นคอนโดมิเนียม บ้านจัดสรร โรงแรม ศูนย์การค้า โรงพยาบาล และคาดว่าจะใช้เวลาพัฒนา 3 – 4 ปีทยอยพัฒนาเป็นส่วนๆ มูลค่าลงทุนในแต่ละส่วนประมาณ 1,000 ล้านบาท

ซิซซากรุ๊ป ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนรายหนึ่งที่มีการลงทุนที่ภูเก็ต พังงา และนครศรีธรรมราชหลายโครงการ อาจจะไม่ใช่รายใหญ่ แต่ใน ปีพ.ศ.2566 ยังมีการลงทุนพัฒนาเพิ่มเติมอีก 4 โครงการทั้งโครงการโรงแรม ที่อยู่อาศัย และเมดิคอล เซ็นเตอร์ในภูเก็ต และนาใต้ พังงา รวมมูลค่าการลงทุนไม่ต่ำกว่า 8,000 ล้านบาท

ผู้ประกอบการรายใหญ่ของภูเก็ตอีกรายที่ต้องพูดถึง คือ โบทานิก้า ลักซูรี่ ภูเก็ต ซึ่งพัฒนาโครงการบ้านพักตากอากาศระดับ Luxury ในภูเก็ต 4 โครงการแล้วปิดการขายแทบทุกโครงการ แม้ว่าระดับของราคาขายจะมากกว่า 20 ล้านบาทต่อยูนิตขึ้นไปก็ตาม นอกจากนี้ โบทานิก้ายังมีผู้ซื้อส่วนหนึ่งที่เป็นต่างชาติด้วย

ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์หลายรายต้องการที่จะขยายฐานรายได้จากการขายที่อยู่อาศัยทั้งบ้าน และคอนโดมิเนียมในภูเก็ตให้สามารถสร้างรายได้แบบต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่เพียง 1 – 2 โครงการแล้วก็หายไป

การร่วมทุนกับเจ้าของที่ดิน หรือผู้ประกอบการท้องถิ่นจึงเป็นอีก 1 ทางเลือกที่น่าสนใจ

เพราะจะได้อาศัยทั้งกำลังทรัพยากรบุคคล และความเชี่ยวชาญ รวมไปถึงความเข้าใจในตลาด และฐานข้อมูลลูกค้าที่อยู่แล้ว

โดยในช่วงปลายปีที่ผ่านมา แอสเซทไวส์ ประกาศร่วมทุนกับทางโบทานิก้า ลักซูรี่ ภูเก็ต ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่รายหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งทางแอสเซทไวส์จะร่วมลงทุน 30% ในโครงการ BOTANICA Grand Avenue บนพื้นที่กว่า 178 ไร่ เพื่อพัฒนาบ้านระดับ Luxury กว่า 200 ยูนิต

โบทานิก้าเป็นผู้ประกอบการในภูเก็ตที่ประสบความสำเร็จมากในช่วงที่ผ่านมา โครงการของทางโบทานิก้าที่เปิดขายมาก่อนหน้านี้ก็ได้รับความสนใจและปิดการขายต่อเนื่องมีผู้ซื้อทั้งไทยและต่างชาติ

จากนั้นปีพ.ศ.2566 ทางแอสเซทไวส์ก็แสดงความชัดเจนว่าต้องการขยายฐานลูกค้าในภูเก็ตแบบระยะยาว โดยการประกาศเข้าซื้อหุ้นกว่า 57.79 % ของบริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)

บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI มูลค่ากว่า 1,042,923,750 บาท ซึ่งคาดว่าจะมีรายได้เข้ามาในช่วงปีพ.ศ.2566 – 2569 ประมาณ 10,000 ล้านบาท

และวางแผนจะขยายการลงทุนเพิ่มเติมในที่ดินกว่า 80 ไร่เพื่อพัฒนาโรงแรม และขยายเข้าสู่ธุรกิจท่องเที่ยวมากขึ้นในอนาคต

ผู้ประกอบการรายใหญ่หลายรายเข้าไปลงทุนในภูเก็ตแบบต้องการลงทุนในระยะยาวมากขึ้น ไม่ใช่แค่ไม่กี่โครงการแล้วจบ

ภูเก็ตเป็น 1 ในตลาดที่ผู้ประกอบการพยายามหาช่องทางเข้ามาเปิดขายโครงการใหม่ต่อเนื่อง

และไม่ได้หวังเพียงกำลังซื้อจากคนในพื้นที่ หรือกำลังซื้อของคนไทยเท่านั้น

กำลังซื้อของชาวต่างชาติก็เป็นอีก 1 ทางเลือกที่น่าสนใจ

เพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาที่ภูเก็ตเป็นกลุ่มของนักท่องเที่ยวสามารถใช้จ่ายได้มากกว่าคนที่เลือกไปเมืองท่องเที่ยวชายทะเลอื่นๆ ของประเทศไทย

บ้านพักตากอากาศหรือวิลล่า รวมไปถึงโครงการคอนโดมิเนียมที่มีราคาสูงแต่อยู่ในทำเลที่ดีไม่ไกลจากชายหาด หรือสามารถเห็นวิวทะเลได้โดยตรงจากโครงการ

หรือมีรูปแบบโครงการที่น่าสนใจก็จะได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติค่อนข้างมาก

ซึ่งชาวต่างชาติที่ให้ความสนใจในภูเก็ตมีทั้งชาวเอเชีย และชาติตะวันตก

แต่ชาวจีน และรัสเซีย ยุโรปอาจจะมีสัดส่วนที่มากกว่าชัดเจน

นอกจากนี้โครงการที่ให้ผลตอบแทน 5 – 7%  ในช่วงระยะเวลา 3 – 7 ปี หรือมากกว่านี้ก็เป็นอีก 1 รูปแบบโครงการที่คนให้ความสนใจโดยเฉพาะในกลุ่มของผู้ซื้อต่างชาติที่ไม่ได้ตั้งใจมาพักอาศัยระยะยาวในภูเก็ต

เพียงแค่ต้องการบ้านหรือที่อยู่อาศัยในช่วงระยะเวลาไม่นานเพื่อพักร้อนหรือหลบลมหนาวในประเทศตนเอง

การซื้อที่อยู่อาศัยในรูปแบบนี้ก็ตรงกับความต้องการของพวกเขา  โครงการรูปแบบนี้จึงมีจำนวนมาก และหลายโครงการได้รับความสนใจเป็นอย่างดี

Recent Articles

‘ปูนซีเมนต์นครหลวง’ ผนึกพาร์ทเนอร์ รุกอสังหาฯ สีเขียว

ปูนซีเมนต์นครหลวง’ ปูทางสู่อนาคต “สิ่งแวดล้อมที่ดี ธุรกิจเติบโตยั่งยืน” ดันนวัตกรรมปูนซีเมนต์-คอนกรีตคาร์บอนต่ำ สู่การใช้งานในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้างของไทย ผ่านโมเดลความร่วมมือกับพันธมิตร ร่วมลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ มุ่งมั่นสร้างการมีส่วนร่วมกับพันธมิตร ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม เดินหน้าสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี 2573 นายมนตรี นิธิกุล...

แลนดี้ โฮม จับมือ Gluta Story เปิดตัวแบบบ้านใหม่

ศูนย์รับสร้างบ้านแลนดี้ โฮม (Landy Home) ตอกย้ำภาพผู้นำตลาดรับสร้างบ้าน จับมือ “Gluta Story” Influencer ชื่อดังสายสัตว์เลี้ยง ขวัญใจคนรักสัตว์ พัฒนาแบบบ้านใหม่ “Pet Friendly Collection” เจาะกลุ่มตรงใจสาย Pet Lover 2 แบบ 2 สไตล์...

กลุ่มรัตนรักษ์เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในปูนซีเมนต์นครหลวง

ในวันนี้ กลุ่มรัตนรักษ์ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของปูนซีเมนต์นครหลวงได้เข้าซื้อหุ้นเพิ่มเติมในจำนวนร้อยละ 25.54 จาก Jardine Cycle & Carriage Limited ส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นของกลุ่มรัตนรักษ์รวมกันเพิ่มขึ้นเป็นประมาณร้อยละ 71.88 ซึ่งการเข้าซื้อหุ้นในครั้งนี้ทำให้ต้องมีการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ที่เหลือทั้งหมดจากผู้ถือหุ้นรายย่อยตามมา ทั้งนี้ บริษัทเข้าใจว่า ไม่ว่าการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ดังกล่าวจะมีผลเป็นอย่างไร ปูนซีเมนต์นครหลวงจะยังคงเป็นบริษัทมหาชนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไปตามข้อกำหนดเกี่ยวกับการจดทะเบียนที่เกี่ยวข้อง โดยภายหลังการเข้าซื้อหุ้นในครั้งนี้ กลุ่มรัตนรักษ์ ในฐานะผู้ก่อตั้งปูนซีเมนต์นครหลวงขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2512 จะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่และผู้ถือหุ้นที่มีอํานาจควบคุมเพียงรายเดียว

ครั้งแรกของประเทศ! “LIV-24” ผนึก “ภาครัฐผู้กำกับนโยบายอุตสาหกรรม”

• ปรากฏการณ์ครั้งสำคัญของประเทศไทย ภาครัฐ โดยกระทรวงอุตสาหกรรม กนอ. และ สภาอุตสาหกรรม ผนึกกำลังภาคเอกชน โดย LIV-24 จัดงานใหญ่แห่งปี ก้าวข้ามขีดจำกัด สู่ยุคอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืนด้วย AI และ INDUSTRIAL TECH • ผู้ประกอบการเร่งปรับตัว...

‘พาร์คสีลม’ ต้อนรับเจนเนอราลี่ ประกันชีวิต (ไทยแลนด์)

“พาร์ค สีลม” อาคารสำนักงานเกรดเอ เปิดบ้านต้อนรับ เจนเนอราลี่ ประกันชีวิต (ไทยแลนด์) เปิดสำนักงานใหม่ ใจกลางถนนสีลม นางอรฤดี ณ ระนอง กรรมการบริหาร บริษัท นายณ์ แอนด์ อาร์จีพี ดีเวลลอปเม้นท์...