เอ็นริช ลุยตลาดบ้านซุปเปอร์ลักซ์ชัวรี่

ปั้น อาร์ค สุขุมวิท 39 รับดีมานด์กลุ่มลูกค้ามาแรงแห่งปี

13

กลุ่มบริษัทเอ็นริช ผนึกกำลังกลุ่มไซบุแก๊ส พัฒนาโครงการ อาร์ค สุขุมวิท 39 บ้านระดับซุปเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ราคา 65-133 ล้านบาท บนทำเลใจกลางสุขุมวิท แวดล้อมด้วยความสะดวกครบครันแบบฉบับไลฟ์สไตล์คนเมือง จำนวนสุดเอ็กคลูซีฟเพียง 12 หลัง สอดรับกับสัญญาณดีมานด์ลูกค้าเซกเมนต์นี้ที่พุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง

นางสาวสุพิชา ณัฐสุวรรณพล

นางสาวสุพิชา ณัฐสุวรรณพล ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารธุรกิจ กลุ่มบริษัทเอ็นริช เปิดเผยถึงทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลังว่า มีแนวโน้มการเติบโตได้ดี โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าลักซ์ชัวรี่ขึ้นไปที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง ยังพบว่ามีความต้องการซื้อบ้านอย่างต่อเนื่อง และเป็นกลุ่มที่มาแรงในปีนี้ แต่การพัฒนาโครงการต้องตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ทั้งในเรื่องของทำเล คุณภาพ งานดีไซน์ และฟังก์ชันการใช้งาน

โดยที่ผ่านมาจากประสบการณ์ที่ทางเอ็นริชได้ร่วมทุนกับ บริษัท ไซบุแก๊ส โฮลดิ้ง จำกัด (Saibu Gas Holdings Co.,Ltd.) ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งก่อตั้งมานานกว่า 90 ปี ที่เลือกลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับคุณภาพทั่วโลก พัฒนาโครงการ เดอะมาร์ค เอ็กซ์ควิซิท ราชพฤกษ์-จรัญสนิทวงศ์ บ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรี่ ราคาเริ่มต้น 30 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูง สามารถปิดโครงการได้ในเวลาอันรวดเร็วแม้เปิดตัวในช่วงโควิด-19 ก็ตาม เป็นผลมาจากการออกแบบพื้นที่ใช้สอยในบ้านตอบโจทย์กับการใช้งานจริง ควบคู่กับการการออกแบบทางสถาปัตยกรรมที่สวยงาม รวมถึงยังผสานแนวคิดการจัดบ้านแบบ                    “คอนมาริ” ในสไตล์ มาริเอะ คอนโดะ ร่วมกับตัวแทนที่ปรึกษาระดับมาสเตอร์อีกด้วย

นายอนวัช ฉัตรศิริกุล

นายอนวัช ฉัตรศิริกุล ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารโครงการ กลุ่มบริษัทเอ็นริช กล่าวเสริมอีกว่า สิ่งสำคัญที่ทำให้โครงการของกลุ่มบริษัทฯ ได้รับการตอบรับที่ดี เป็นเพราะมีข้อมูลอินไซต์ของกลุ่มลูกค้าระดับลักซ์ชัวรี่ จากการสำรวจตลาด พบว่า กลุ่มลูกค้าระดับลักซ์ชัวรี่จะมีความต้องการใน 3 เรื่องสำคัญ ได้แก่ 1.ทำเล ต้องตั้งอยู่ในพื้นที่ที่สามารถเดินทางได้สะดวกสบาย ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน 2.ดีไซน์ พื้นที่ใช้สอยต้องมีขนาดที่เหมาะสม และมีความสวยงาม การออกแบบจากดีไซน์เนอร์ที่มีชื่อเสียง และเป็นที่ยอมรับ การดีไซน์นั้นยังต้องแสดงความเป็นตัวตนของลูกค้าได้อย่างชัดเจน รวมถึงการเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ และการก่อสร้างที่มีคุณภาพสูงด้วย 3.มีความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัย เพราะลูกค้าต้องการพักผ่อนอย่างเต็มที่เมื่อกลับมาที่บ้าน

นางสาวสุพิชา กล่าวเพิ่มเติมว่า จากความสำเร็จในการพัฒนาโครงการต่าง ๆ ที่ผ่านมา และข้อมูลอินไซต์ของกลุ่มลูกค้าลักซ์ชัวรี่ บริษัทฯ จึงเดินหน้าร่วมทุนกับกลุ่มบริษัทไซบุแก๊ส ในการพัฒนา โครงการ อาร์ค สุขุมวิท 39 (ARCH Sukhumvit 39) บ้านระดับซุปเปอร์ลักซ์ชัวรี่ เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้า ที่มองหาที่อยู่อาศัยในทำเลซีบีดี  ซึ่งโครงการตั้งอยู่บนทำเลที่ดีบนถนนสุขุมวิทและปัจจุบันหาที่ดินมาพัฒนาโครงการได้ยากมาก สวนทางกับความต้องการอยู่อาศัยที่มีสูง เนื่องจากเป็นทำเลมีศักยภาพ มีความสมบูรณ์ของระบบสาธารณูปโภค สิ่งอำนวยความสะดวก และเป็นทำเลใจกลางธุรกิจสำคัญของกรุงเทพฯด้วย

สำหรับโครงการ อาร์ค สุขุมวิท 39  บริษัทฯ พัฒนาโครงการ โดยการออกแบบ ด้วยดีไซน์ Modern Classic เน้นการออกแบบรูปทรง ARCH ทำให้โครงการโดดเด่น พื้นที่ภายในที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างออกไป อีกทั้งยังเหมือนเป็นพื้นที่ที่ถูกโอบล้อม แต่มีความเป็นส่วนตัวไม่ทึบตัน เรียบหรูดูทันสมัย เน้นเพิ่มพื้นที่สีเขียวในทุกชั้น ทำให้ทุกห้องสามารถได้รับแสงธรรมชาติ และมีมุมมองภายในห้องที่ดี ตอบโจทย์การใช้งาน และไลฟ์สไตล์ในปัจจุบัน บนที่ดิน 2 ไร่ จำนวน 12 หลัง พื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ 535-829 ตร.ม. ขนาด 4-5 ห้องนอน และที่จอดรถ 4-6 คัน* พร้อมลิฟต์ส่วนตัว ในราคาเริ่มต้น 65 ล้านบาท* โดยมีกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 8-9 กรกฎาคม 2566 นี้ โครงการมีความสงบเพราะเป็นซอยที่มีแต่ที่พักอาศัย จากที่ตั้งโครงการ สามารถเดินทางไปทองหล่อ และสถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์ เพียง 1.5 กม. และยังสามารถเชื่อมต่อถนนเส้นหลักได้ทั้งถนนสุขุมวิท เพชรบุรี และพระราม 9 แวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ใกล้ศูนย์รวมแหล่งช้อปปิ้งระดับโลก “The EM District” รถไฟฟ้า โรงเรียนนานาชาติ และโรงพยาบาลชั้นนำ

“ในการพัฒนาทุกโครงการ เรายังคงยึดหลักแนวคิด Guiding You to Practical Living คือ ให้ผู้อยู่อาศัย ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้จริงในโครงการของเรา สำหรับโครงการ อาร์ค สุขุมวิท 39 ก็เช่นกัน เราเน้นตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยที่อยู่ในย่านใจกลางเมืองสุขุมวิท นอกจากความสะดวกสบายเรื่องการเดินทาง ซึ่งเป็นความกังวลของคนในย่านนี้แล้ว ยังใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แต่ในขณะเดียวกัน เมื่อได้เข้าบ้าน ก็ได้พักผ่อนในบ้านที่มีความเป็นส่วนตัว ใกล้ชิดธรรมชาติ พร้อมด้วยดีไซน์อันมีเอกลักษณ์ ทั้งในแง่พื้นที่ใช้สอยที่เหมาะสม และความสวยงามซึ่งเป็นสิ่งที่คนย่านนี้ให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน” นางสาวสุพิชา กล่าว

มร.เคสุเกะ โคจิ

มร.โยชินาริ นุมาโนะ และ มร.เคสุเกะ โคจิ ตัวแทนฝ่ายบริหาร บริษัท ไซบุแก๊ส โฮลดิ้ง จำกัด ร่วมกันกล่าวว่า จากที่ได้ร่วมงานนกับกลุ่มบริษัท เอ็นริชที่ผ่านมา ยิ่งตอกย้ำให้เห็นว่าเอ็นริชเป็นผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย เข้าใจอินไซต์และความต้องการในการอยู่อาศัยและใช้ชีวิตของลูกค้าเป็นอย่างดี อีกทั้งใส่ใจในการพัฒนาโครงการให้ตอบโจทย์ตรงนั้น ดูได้จากผลตอบรับเป็นอย่างดีในโครงการที่ผ่านมา แม้ว่าธุรกิจอสังหาฯ ในไทยมีการแข่งขันสูง แต่มั่นใจว่ากลุ่มบริษัท เอ็นริช จะผลักดันให้ตลาดอสังหาฯ ในไทยเติบโตต่อไปได้ และเหตุผลที่ทางกลุ่มไซบุแก๊ส เลือกที่จะมุ่งเน้นการขยายธุรกิจมาที่อาเซียน โดยเฉพาะประเทศไทยนั้น เพราะมีการพัฒนาการทางเศรษฐกิจอย่างโดดเด่น มีการเติบโตด้านธุรกิจอสังหาฯ ที่มั่นคง

นางสาวอาทิตยา เกษมลาวัณย์

ขณะที่นางสาวอาทิตยา เกษมลาวัณย์ หัวหน้าแผนกซื้อขายโครงการที่พักอาศัย บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าสำหรับตลาดบ้านกลุ่มลักซ์ชัวรี่ขึ้นไปในกรุงเทพฯชั้นในและชั้นนอก พบว่ามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากการเปิดตัวโครงการบ้านใหม่ในกลุ่มลักซ์ชัวรีขึ้นไปในช่วงก่อนโควิด-19 (ปี 2560-2562) พบว่ามีการเปิดตัวเฉลี่ย 260 หลังต่อปี ในขณะที่ช่วงที่มีการระบาดโควิด-19 (ปี 2563-2565) ตลาดบ้านระดับลักซ์ชัวรี่ขึ้นไปกลับเติบโตสวนกระแส โดยมีการเปิดตัวเฉลี่ย 645 หลังต่อปี หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 132%

เมื่อพิจารณาในด้านความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้พบว่ามีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน  ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง ต้องการขยายพื้นที่อยู่อาศัย โดยคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวมากขึ้น  ส่งผลให้ยอดขายบ้านระดับลักซ์ชัวรี่ขึ้นไปโดยรวมในตลาดในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้พุ่งสูงถึง 78% ในขณะที่ยอดขายโดยรวมในปี 2565 อยู่ที่ 68% โดยทำเลที่มียอดขายสูงที่สุด คือ ทำเลใจกลางเมือง มียอดขายสูงถึง 88% ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับทำเลอื่น ๆ เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่าซัพพลายตลาดบ้านในทำเลนี้มีน้อยมาก เพราะที่ดินมีจำกัด อย่างไรก็ตาม ความต้องการบ้านใจกลางเมืองยังเป็นความต้องการที่มีอยู่อย่างสม่ำเสมอ โดยผลกระทบจากโควิด-19 เป็นตัวเร่งให้เกิดความต้องการในตลาดและส่งผลให้ผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรมในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยมาสู่รูปแบบบ้านเพิ่มมากขึ้น “หากเปรียบเทียบโครงการคอนโดมิเนียมที่ตั้งอยู่ในทำเลสุขุมวิทตอนกลาง ตั้งแต่ย่านอโศกไปจนถึงทองหล่อ จะพบว่ายูนิตขนาดใหญ่ 3 ห้องนอนขึ้นไปจนถึงเพนท์เฮ้าส์ ลูกค้าจะได้พื้นที่ใช้สอยประมาณ 200-350 ตร.ม. ที่จอดรถ 3-4 คัน ซึ่งราคาจะอยู่ที่ระดับ 60-130 ล้านบาท ในขณะที่โครงการ อาร์ค สุขุมวิท 39 ซึ่งถือว่าเป็นโครงการบ้านที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองอย่างแท้จริง  ลูกค้าจะได้พื้นที่ใช้สอยที่มากกว่าและตอบโจทย์ทั้งในแง่ของฟังก์ชันที่มากขึ้น รวมไปถึงที่จอดรถที่เตรียมไว้ให้อย่างเพียงพอ พร้อมกรรมสิทธิ์สมบูรณ์ในที่ดิน ทำให้โครงการนี้เป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าจับตามอง” นางสาวอาทิตยากล่าวในตอนท้าย