11 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป วงเงินคุ้มครองเงินฝากเหลือ 1 ล้านบาท

อาจต้องมีการกระจายเงินฝากและหาช่องทางลงทุนใหม่ๆ

10

วันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ.2564 เป็นต้นไป บัญชีเงินฝากของคนไทยจะมีความคุ้มครองเหลือเพียง 1 ล้านบาท

นั่นหมายความว่า “หากสถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันคุ้มครองเงินฝากถูกเพิกถอนใบอนุญาต ผู้ฝากในสถาบันการเงินดังกล่าว จะได้รับเงินฝาก (เงินต้นและดอกเบี้ย) คืนจากสถาบันคุ้มครองเงินฝากภายใต้วงเงินคุ้มครองที่กำหนด โดยจะคุ้มครองในลักษณะ 1 รายผู้ฝาก ต่อ 1 สถาบันการเงิน”

ไม่ใช่ทุกบัญชีนะครับ กี่บัญชีก็ตามนับเป็น 1 รายผู้ฝาก ซึ่งหมายถึง วงเงินสูงสุดที่ผู้ฝากที่มีชื่อเป็นเจ้าของบัญชีเงินฝากตามเอกสารการเปิดบัญชีจะได้รับเงินฝากคืน ในกรณีที่ผู้ฝากมีบัญชีเงินฝากหลายบัญชีที่เปิดอยู่กับสถาบันการเงิน 1 แห่ง จะต้องนำเงินฝาก (เงินต้นและดอกเบี้ย) ในทุกสาขาและทุกบัญชีของสถาบันการเงินแห่งนั้นมารวมคำนวณ

โดย ณ ปัจจุบันวงเงินคุ้มครองเงินฝากอยู่ที่ 5 ล้านบาทต่อ 1 ผู้ฝากจนถึงวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ.2564

และจะบังคับใช้วงเงินคุ้มครองที่ 1 ล้านบาทตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ.2564 เป็นต้นไป

นั่นหมายความว่าตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ.2564 เป็นต้นไป ธนาคารจะคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยให้กับทุกรายผู้ฝากเพียง 1 ล้านบาทเมื่อธนาคารถูกเพิกถอนใบอนุญาต

ถ้ามีมากกว่า 1 ล้านบาทก็กระจายไปหลายๆ ธนาคารก็เป็นทางเลือกที่ดี หรือเอาเงินฝากมาเปลี่ยนเป็นสินทรัพย์รูปแบบอื่นๆ แต่ต้องพิจารณาดีๆ เพราะอาจจะหนีเสือปะจระเข้ได้ และอาจจะไม่เหลือเลยสักบาท