ปัจจัยเสี่ยงมากมายในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งไม่ใช่เฉพาะที่เกิดขึ้นในช่วงโควิด-19 เท่านั้น
แต่ยังมีปัจจัยในเรื่องของกำลังซื้อของคนไทยที่ลดลง ทั้งจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และคนที่มีกำลังซื้อในประเทศไทยลดลง
ซึ่งปัจจัยลบต่างๆ เหล่านี้ มีผลชัดเจนในช่วงโควิด-19
ทำให้หลายบริษัทอสังหาริมทรัพย์เลือกที่จะขยายธุรกิจอื่นๆ มากขึ้น บางรายเปลี่ยนแปลงตัวเองจนแทบจะไม่เหลือพอร์ตธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
รวมไปถึงจำเป็นต้องหา “ผู้ร่วมทุน” ที่มีความชำนาญ หรือเป็นผู้ที่ประกอบธุรกิจนั้นๆ อยู่แล้ว รวมไปถึงการซื้อกิจการเพื่อเป็นเจ้าของทันที
ใน 1-2 ปีนี้จึงเห็นการก้าวออกจากกรอบของธุรกิจเดิมของผู้ประกอบการอสังหาฯ ด้วยการแตกไลน์ธุรกิจใหม่ออกมารองรับเมกะเทรนด์โลกเกี่ยวกับสุขภาพ และผู้สูงอายุ ที่เข้ามามีบทบาทในประเทศไทย
และ อีกหนึ่งธุรกิจที่อาจจะดูเหมือนไม่ยากแต่ก็จำเป็นต้องอาศัยคนมีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจ คือ บริหารสินทรัพย์ (Asset Management)
ส่วนหนึ่งอาจจะเข้ามาบริหารพอร์ตหรือที่อยู่อาศัยในเครือของตนเอง รวมไปถึงการเข้าซื้อหรือประมูล NPA จากสถาบันการเงินต่างๆ เพื่อนำมาขายหรือบริหารต่อ
ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยคนมีประสบการณ์ที่มีความเข้าในธุรกิจ กฎหมาย และระบบต่างๆ เนื่องจากขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายนั้นมีหลายขั้นตอน ไม่ใช่การซื้อมาขายไปเท่านั้น
นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจโลจิสติกส์ คลังสินค้า ดาต้าเซ็นเตอร์ ที่เป็นโมเดลธุรกิจที่เข้ามารองรับ เศรษฐกิจใหม่ หรือ นิวอีโคโนมี ที่เข้ามา disrupted ธุรกิจและการใช้ชีวิตของคนบนโลกใบนี้
ถือเป็นตลาดใหม่ ที่ต้องรีบเข้าไปจับจองเพื่อช่วงชิงดีมานด์ใหม่ที่กำลังเข้ามาในอนาคต
เพราะนั่นหมายถึง แหล่งรายได้ใหม่ ที่เข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้องค์กรให้สามารถเติบโตและอยู่รอดในระยะยาว