หน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่มีสำนักงานอยู่ในกรุงเทพมหานครหรือจังหวัดหัวเมืองขนาดใหญ่หลายแห่งก็เริ่มมีการนำที่ดินของตนเองออกมาหารายได้แล้ว
เนื่องจากสำนักงานของตนเองไม่ได้ใช้ประโยชน์หรือเปลี่ยนรูปแบบการทำงานไปจากในอดีตแล้ว ที่ดินหรือสำนักงานขนาดใหญ่ไม่ใช่สิ่งจำเป็นอีกต่อไป
เพราะรูปแบบการทำงานรวมไปถึงการให้บริการประชาชนหรือการอำนวยความสะดวกต่างๆ เปลี่ยนแปลงไป ปัจจุบันบริการหลายอย่างทดแทนด้วยเทคโนโลยี ขั้นตอนเอกสารต่างๆ ก็ลดน้อยลง
อีกทั้งจำนวนพนักงานหรือคนที่ทำงานในหน่วยงานก็ลดน้อยลงด้วยเช่นกัน บางจังหวัดใดก็ตามที่มีสำนักงานหลายแห่งก็อาจจะยุบรวมเหลือเพียง 1 แห่งในส่วนกลางเท่านั้นเพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่าย และนำที่ดินออกมาหาประโยชน์โดยการปล่อยเช่ารูปแบบต่างๆ
รัฐวิสาหกิจที่เห็นได้ชัดเจนในเรื่องของการหาประโยชน์จากการปล่อยเช่าที่ดิน คือ การรถไฟแห่งประเทศไทยที่ปล่อยเช่าที่ดิน หรือพื้นที่ภายในอาคารสถานีของตนเองมานานมากแล้ว
ซึ่งรูปแบบการปล่อยเช่ามีทั้งปล่อยเช่าระยะยาว 30 ปี หรือแบบสั้น 1 – 3 ปี ในกรุงเทพมหานครก็มีการดำเนินการในเรื่องนี้มาต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ทั้งที่ดินรอบๆ สถานีกลางบางซื่อ หัวลำโพง และที่ดินรอบสถานีรถไฟความเร็วสูง รวมไปถึงมีการศึกษาและจัดทำรายงานการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในการลงทุนพัฒนาที่ดิน
ซึ่งมีการจัดทำแบบต่อเนื่องโดยภาคเอกชนภายใต้การจัดจ้างของการรถไฟฯ สำหรับที่ดินหลายแปลงนอกเหนือจากที่กล่าวไปแล้ว
จากนั้นยังมีการเรียกประชุมเพื่อชี้แจงและรับฟังข้อเสนอแนะจากภาคเอกชนที่รวมทั้งผู้ประกอบการ นักการตลาดอสังหาริมทรัพย์ และผู้ทรงคุณวุฒิในวงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อรับฟังความคิดเห็นในแง่มุมต่างๆ สำหรับที่ดินแต่ละแปลงที่มีการศึกษาเสร็จแล้ว
ทั้งนี้เพื่อดูความเป็นไปได้ในการนำที่ดินออกมาประมูล ซึ่งเรื่องนี้การรถไฟฯ ทำมาต่อเนื่อง และน่าจะเป็นรัฐวิสาหกิจรายใหญ่ที่มีขั้นตอนและลำดับขั้นชัดเจนที่สุดในการเปิดประมูลที่ดินของตนเอง