Home บทความ การเข้ามาของนักลงทุนต่างชาติมีหลากหลายรูปแบบ

การเข้ามาของนักลงทุนต่างชาติมีหลากหลายรูปแบบ

กลุ่มของนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนโครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบต่างๆ ทั้งในรูปแบบของการเริ่มลงทุนใหม่ตั้งแต่ที่ดินเปล่ามีมานานมากแล้ว

แต่ในช่วงหลังๆ มีกลุ่มที่เข้ามาเพื่อร่วมทุนกับทางผู้ประกอบการไทย หรือเข้ามาเพื่อซื้อกิจการไทย ซึ่งในกลุ่มหลังซึ่งเข้ามาเพื่อซื้อกิจการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบต่างๆ อาจจะมีมากขึ้น

เพราะสถานการณ์โควิด-19 ที่มีผลต่อการประกอบธุรกิจหลายประเภทในประเทศไทย และในทุกประเทศทั่วโลก

กลุ่มทุนต่างชาติใดก็ตามที่มีเงินทุนหรือยังมีกระแสเงินสด รวมไปถึงช่องทางการระดมทุนได้อยู่ก็จะมองหาช่องทางการเข้าซื้อกิจการที่มีอนาคต แต่ช่วงที่ผ่านมาประสบกับปัญหาขาดกระแสเงินสด และมีภาระหนี้สิน

กลุ่มทุนที่มีเงินทุนหรือมีช่องทางในการระดมทุนรวมไปถึงสามารถหาเงินจำนวนมากได้ในช่วงเวลาที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจนั้นจริงๆ แล้วมีทั้งคนไทย และต่างชาติ

แต่ขอพูดถึงกลุ่มของนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาในประเทศไทย ซึ่งอาจจะเห็นได้มากขึ้นตั้งแต่ปีที่ผ่านมาต่อเนื่องถึงปัจจุบัน

กลุ่มของนักลงทุนต่างชาติที่ต้องการเข้ามาซื้อกิจการหรือลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์บางประเภทที่ประสบปัญหาในช่วงที่ผ่านมามีหลากหลายเชื้อชาติ ไม่ได้จำเพาะเจาะจงหรือมีอยู่ไม่กี่สัญชาติ

และอาจจะไม่สอดคล้องกับการเข้ามาลงทุนผ่านช่องทางการขออนุญาตส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ซึ่งจะเป็นการลงทุนในด้านอุตสาหกรรมมากกว่า

รวมไปถึงอาจจะไม่สอดคล้องกับกับการเข้ามาลงทุนในตลาดคอนโดมิเนียมของประเทศไทย ทั้งในรูปแบบของนิติบุคคล และแบบบุคคลทั่วไป

เพราะในตลาดคอนโดมิเนียมประเทศไทยนั้น นักลงทุนหรือบริษัทจากประเทศญี่ปุ่นนี่ชัดเจนเลยว่ามาเป็นอันดับที่ 1 ด้วยการลงทุนร่วมกับผู้ประกอบการไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมามูลค่ารวมกันหลายแสนล้านบาท

แต่ถ้าในกลุ่มของบุคคลทั่วไปที่เข้ามาซื้อคอนโดมิเนียมในประเทศไทยกลับเป็นคนจากประเทศจีนที่เข้ามาซื้อมากกว่าคนจากประเทศอื่นๆ แบบเทียบกันไม่ได้

หรือกว่า 50% ของคอนโดมิเนียมที่ซื้อและโอนกรรมสิทธิ์โดยชาวต่างชาตินั้นเป็นคนจีน ในขณะที่ญี่ปุ่นกลับน้อยกว่ามาก ซึ่งนักลงทุนในตลาดคอนโดมิเนียมก็แตกต่างจากตลาดอื่นๆ เช่นกัน

ประเภทกิจการหรือธุรกิจที่นักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจในการเข้ามาซื้อหรือหาช่องทางการร่วมทุน คือ

ธุรกิจหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว

เพราะประเทศไทยยังมีโอกาสในการขยายตัวในธุรกิจท่องเที่ยวอีกมาก

อีกทั้งในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา เจอปัญหาโควิด-19 ทำให้หลายกิจการมีปัญหา ขาดกระแสเงินสด

และเกิดปัญหาเรื่องของเงินทุนหมุนเวียน ขาดเงินที่ต้องชำระกับสถาบันการเงิน

ซึ่งปัญหาเหล่านี้เป็นเหมือนการเปิดช่องให้กับคนที่มีเงินทุนเข้ามาเลือกซื้อหรือเลือกที่จะร่วมลงทุนโดยการให้เงินส่วนหนึ่งเพื่อให้เกิดกระแสเงินสดหมุนเวียน

เพื่อนำไปชำระหนี้สิน หรือซื้อกิจการเลยก็ได้

ประเภทของอสังหาริมทรัพย์ที่พวกเขาสนใจ คือ โรงแรม รีสอร์ต ที่พักรูปแบบและระดับต่างๆ

รวมไปถึงกิจการหรือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เช่น

ศูนย์แสดงโชว์ สวนสนุก สวนน้ำ ร้านอาหาร ผับ บาร์ เป็นต้น ได้รับความสนใจจากกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ

โดยเฉพาะกลุ่มที่อยู่ในประเทศไทยหรือมีการลงทุนในประเทศไทยแล้ว

เพราะสะดวกในการซื้อกิจการในรูปแบบของนิติบุคคลไทย

กลุ่มของนักลงทุนที่เห็นได้ชัดเจนเลย คือ นักลงทุนจากประเทศจีนที่เข้าซื้อหรือพยามยามหาช่องทางในการเข้าซื้อกิจการหลายแห่งในมืองท่องเที่ยวที่คนจีนนิยม เช่น

พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ ในกรุงเทพมหานครอาจจะเป็นในรูปบบของการซื้ออสังหาริมทรัพย์มากกว่ากิจการ

แต่ถ้ามีโอกาสพวกเขาก็สนใจซื้อเช่นเดียวกัน

นักลงทุนจากรัสเซียนี่เป็นกลุ่มของนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยนานแล้ว อาจจะลดน้อยลงไปบ้างในช่วงที่รัสเซียมีปัญหาเรื่องจองค่าเงินรูเบิล

แต่คนที่อยู่ในประเทศไทยก็ยังคงเดินหน้าขยายกิจการต่อเนื่อง

รัสเซียอาจจะซื้อหรือสนใจซื้อกิจการรวมไปถึงลงทุนใหม่ในเมืองท่องเที่ยวชายทะเลเป็นหลักทั้งในพัทยาซึ่งมีมานานแล้ว

ภูเก็ตเริ่มมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รวมไปถึงเมืองท่องเที่ยวชายทะเลอื่นๆ ที่อาจจะเริ่มเห็นบ้าง

กลุ่มของนักลงทุนจากกลุ่มประเทศจากสแกนดิเนเวีย เช่น นอร์เวย์ สวีเดน เดนมาร์ค

กลุ่มนี้ในอดีตมีการลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งในบางแสน พัทยา ระยอง ห้วยยาง เกาะลันตา และภูเก็ต แต่เริ่มลดน้อยลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

กลุ่มของนักลงทุนจากตะวันออกกลางที่สนใจในธุรกิจโรงแรมในประเทศมานานแล้ว

โดยมีทั้งกลุ่มที่ต้องการโรงแรมเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจากประเทศแถบตะวันออกกลางโดยเฉพาะซึ่งมีวัฒนธรรมการกิน ศาสนาที่ค่อนข้างแตกต่าง และกลุ่มที่เข้ามาซื้อโรงแรมเพื่อเป็นโรงแรมที่รองรับผู้เข้าพักทั่วๆ ไป