คอนโดมิเนียมหลายโครงการที่เปิดขายในไตรมาสที่ 1 พ.ศ.2565 มีอัตราการขายที่ค่อนข้างสูง
อาจจะไม่ถึงกับปิดการขายแบบ 100% แต่ก็มากกว่า 60 – 70% ในบางโครงการ
เพราะราคาขายที่ไม่สูงมาก และทำเลที่ตั้งโครงการยังสามารถปรับราคาเพิ่มขึ้นได้อีกในอนาคต
ดังนั้น หลายโครงการเป็นที่สนใจของทั้งกลุ่มผู้ที่ซื้ออยู่อาศัยเอง และกลุ่มของนักลงทุนทั้งแบบระยะสั้น และระยะยาว
แม้ว่าหลายโครงการจะมีอัตราการขายที่ค่อนข้างสูง แต่ก็ไม่ได้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของคนไทยว่าฟื้นตัวแล้ว
เพราะจากข้อมูลของศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย รายงานว่าดัชนีความเหมาะสมในการซื้อบ้านหลังใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์ของคนไทยอยู่ที่ 23.6 ลดลงต่อเนื่องจากปลายปีพ.ศ.2564
และต่ำกว่าช่วงต้นปีพ.ศ.2564 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าคนไทยส่วนหนึ่งยังไม่เชื่อมั่นในเศรษฐกิจระยะยาวจนเลือกที่จะชะลอการซื้อที่อยู่อาศัย
แม้ว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการซื้อที่อยู่อาศัยก่อนที่ราคาขายจะสูงขึ้นตามราคาวัสดุก่อสร้าง และค่าครองชีพ
อุปสรรคสำคัญอีกอย่างคือ เรื่องของการขอสินเชื่อธนาคารที่แม้ว่าเรื่องของ LTV จะผ่อนคลายมากขึ้นแล้ว แต่ในมุมมองของธนาคารก็ยังคงความเข้มงวดในการพิจารณาต่อเนื่อง