32.5 C
Bangkok
Sunday, April 20, 2025

จำนวนของชาวต่างชาติสามารถยื่นขอวีซ่าระยะยาว (Long – Term Resident Visa) หรือ “LTR Visa”

ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา หลังจากที่รัฐบาลอนุญาตให้ชาวต่างชาติสามารถยื่นขอวีซ่าระยะยาว (Long – Term Resident Visa) หรือ “LTR Visa” ในประเทศไทยได้

ข้อมูลล่าสุดจากการรายงานของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เมื่อวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา

ได้รายงานจำนวนของผู้ขอยื่นขอใบสมัคร LTR Visa ณ วันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมาอยู่ที่ 1,158 ราย

โดยแยกตาม 4 กลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพสูง ดังนี้

1.กลุ่มผู้มีความมั่งคั่งสูง คือ มีทรัพย์สินมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีรายได้ส่วนบุคคลไม่น้อยกว่า 80,000 ดอลลาร์/ปี และลงทุนในไทยไม่น้อยกว่า  5 แสนดอลลาร์ มีผู้ยื่นใบสมัครแล้ว 88 คน คิดเป็น 8%

2. ผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ คือ มีรายได้ส่วนบุคคลไม่น้อยกว่า 80,000 ดอลลาร์/ปี กรณีรายได้ต่ำกว่าที่กำหนด ต้องลงทุนไม่น้อยกว่า 250,000 ดอลลาร์ ในพันธบัตรรัฐบาลหรืออสังหาริมทรัพย์ โดยมีผู้สมัครเข้ามาแล้ว 430 คน คิดเป็น 37%

3.ผู้ที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย คือ มีรายได้ส่วนบุคคลไม่น้อยกว่า 80,000 ดอลลาร์/ปี กรณีรายได้ต่ำกว่าที่กำหนด ต้องสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทขึ้นไป หรือครอบครองทรัพย์สินทางปัญญา หรือได้รับเงินทุน Series A โดยในกลุ่มนี้มีผู้สมัครเข้ามาแล้ว 366 คน คิดเป็น 32%

4. ผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ ต้องมีรายได้ส่วนบุคคลไม่น้อยกว่า 80,000 ดอลลาร์/ปี กรณีรายได้ต่ำกว่าที่กำหนด ต้องสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทขึ้นไปในสาขาวิทยาศาสตร์หรือเทคโนโลยีหรือมีความเชี่ยวชาญในสายงานที่เข้ามาทำในประเทศไทย ในกลุ่มนี้มีผู้สมัครมาแล้ว 160 คน คิดเป็น 14%

ที่เหลือเป็นการยื่นขอใบสมัครของคู่สมรส และบุตรของผู้ที่ต้องการทำงานและพำนักอาศัยระยะยาวในประเทศไทย โดยมีคนที่ยื่นใบสมัครวีซ่าในส่วนนี้ 144 คน คิดเป็น 14%

โดยถ้าแยกตามประเทศของผู้ที่ยื่นสมัครเข้ามา 5 อันดับแรกของชาวต่างชาติจะสามารถแยกได้ว่า

1. สหรัฐ อเมริกา 232 ราย

2. จีน 140 ราย

3. สหราชอาณาจักร 109 ราย

4. เยอรมัน 68 ราย

5. ออสเตรเลีย 51 ราย

ผ่านไปไม่นานก็มีคนยื่นขอสมัครเข้ามามากขนาดนี้แล้ว คงต้องติดตามต่อเนื่องต่อไป และขอให้ BOI  เปิดเผยจำนวนของคนที่ได้ LTR VISA ด้วยก็จะดีครับ

Recent Articles

    ‘ดับบลิว เฮ้าส์’ เปิดเกมรุกตลาด Ultra-Luxury

‘ดับบลิว เฮ้าส์’ รับสร้างบ้านมาตรฐานสูง สไตล์โมเดิร์นหรู เดินเกมรุกตลาด Ultra-Luxury สร้างบ้านหรู 50-100 ล้านบาท เปิดตัวแบบบ้านซีรีส์ใหม่ ‘THE WORLD’ เชื่อมโยงตัวตนเจ้าของบ้านได้อย่างชัดเจน ครบทุกมิติ ทุกสไตล์ ทั้งดีไซน์ วัสดุ และ ฟังก์ชั่นการใช้งาน ตอกย้ำแบรนด์ ‘Lifestyle Architect’...

W House ตอกย้ำ 3 มาตรการสร้างบ้านมาตรฐานสูงรับมือแผ่นดินไหว

W House รับสร้างบ้านมาตรฐานสูง สไตล์โมเดิร์นหรู 15 ล้านบาทขึ้นไป ตอกย้ำ ‘บ้านที่มั่นใจได้ทุกหลัง’ ไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ชู 3 มาตรการคุณภาพ ‘ออกแบบบ้าน-คัดเลือกวัสดุ-กระบวนการก่อสร้าง’ รองรับแรงสั่นสะเทือนได้ดีตามหลักมาตรฐานสากล มุ่งเน้นความปลอดภัยสูงสุด พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตด้วยทีมงานมืออาชีพ ภายหลังเหตุการณ์อาคารถล่มจากเหตุแผ่นดินไหวในกรุงเทพฯ และผลกระทบที่เกิดขึ้นกับคอนโดมิเนียมรวมถึงอาคารสูงในหลายจังหวัด ทำให้ประเด็นด้านความปลอดภัยได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก...

เปิดอาณาจักร ‘Boutique Developer’A NEW ERA OF URBAN LIVING EXPERIENCES

นับหนึ่งถึงร้อย กว่าจะสร้างผลงานแต่ละชิ้นของ นายณ์ เอสเตท (NYE ESTATE) จากจุดเริ่มต้นถึงวันนี้12 ปีของการเดินทาง มุ่งมั่นการทำธุรกิจที่ทุ่มเทใส่ใจทุกรายละเอียด ฉบับ Breaking New Ground เพื่อบ้านคุณภาพชีวิตดี สร้างความสุข และส่งต่อมรดกที่มากคุณค่าจากรุ่นสู่รุ่น ใส่ใจและประณีตในทุกรายละเอียด

‘Landy Grand’ ผู้อยู่เบื้องหลังผลงานสร้างบ้านหรูของนักธุรกิจ เซเลบ และดาราดัง!

‘Landy Grand’ เปิดเกมรุกตลาดรับสร้างบ้านลักซ์ชัวรี ตอกย้ำแบรนด์บริษัทรับสร้างบ้านที่อยู่เบื้องผลงานสร้างบ้าน    ของ ‘นักธุรกิจชั้นนำ เซเลบ ดาราดัง’ ชูแนวคิด ‘Customize Your Luxury Lifestyle’ เนรมิตบ้านสั่งสร้างหลังใหญ่ ดีไซน์เหนือระดับ สะท้อนเอกลักษณ์เจ้าของบ้าน พร้อมนวัตกรรมป้องกันฝุ่น และบริการครบวงจร ตั้งเป้ายอดขายทะลุ...

สร้างบ้านยุคนี้ต้องมีระบบแรงดันบวก Positive Pressure ป้องกัน PM 2.5

แลนดี้ โฮม ผู้นำธุรกิจรับสร้างบ้านรายแรกและรายเดียวในสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ที่ติดตั้ง CAP+ (Clean Air Positive Pressure) ระบบแรงดันบวก ป้องกันฝุ่น PM 2.5  เพื่อให้บ้านปลอดฝุ่นตั้งแต่ต้นทาง พร้อมเติม Fresh Air ให้อากาศหมุนเวียนอย่างสะอาดโดยไม่ต้องเปิดหน้าต่าง ลดฝุ่น ลดเชื้อโรค และลดปัญหาภูมิแพ้ นับเป็นมาตรฐานใหม่ที่ทุกบ้านต้องมีในยุคปัจจุบัน