คอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ในไตรมาสที่ 3 พ.ศ.2566 มีทั้งหมดประมาณ 3,300 ยูนิต ลดลงจากไตรมาสที่ 2 ประมาณ 59%
อาจจะมีบางโครงการที่เปิดขายแบบไม่เป็นทางการในไตรมาสที่ 2 แล้ว แต่จัดงานเปิดขายแบบเป็นทางการในไตรมาสที่ 3
จึงมีผลให้จำนวนคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ในไตรมาสที่ 3 ดูน้อยลงมากเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 และอาจจะไม่เท่ากันหรือใกล้เคียงในแต่ละข้อมูลที่เผยแพร่ออกมา
แต่ถ้าพิจารณาจำนวนรวมทั้งหมดของคอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ใน 3 ไตรมาสที่ผ่านมาของปีพ.ศ.2566 มีทั้งหมดประมาณ 18,140 ยูนิตลดลงจากช่วงเดียวกันของปีพ.ศ.2565 ประมาณ 43%
ซึ่งจากจำนวนคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ใน 3 ไตรมาสที่ผ่านมาแสดงให้เห็นชัดเจนว่าผู้ประกอบการชะลอการเปิดขายโครงการใหม่ในปีพ.ศ.2566
แม้ว่าเศรษฐกิจมีทิศทางที่เป็นบวกมากกว่าปีที่ผ่านมา แต่ปัจจัยลบก็ยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องกังวล
ช่วงไตรมาสที่ 4 พ.ศ.2566 จะเป็นอีก 1 ไตรมาสที่มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่มากขึ้น
โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 จะเห็นได้มากขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายเดือนตุลาคมเป็นต้นไป ที่มีโครงการคอนโดมิเนียมจำนวนมากหลายโครงการของผู้ประกอบการหลายรายที่มีกำหนดเปิดขายใหม่
ซึ่งบางโครงการอาจจะมีการเปิดขายแบบไม่เป็นทางการหรือขายแบบออนไลน์ไปแล้วในช่วงไตรมาสที่ 3
การชะลอการเปิดขายโครงการใหม่ของผู้ประกอบการ อาจจะมีผลให้จำนวนคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ในปีพ.ศ.2566 น้อยกว่าปีพ.ศ.2565 ประมาณ 30 – 50%
พื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าเป็นพื้นที่ที่ผู้ประกอบการโครงการคอนโดมิเนียมให้ความสนใจมาโดยตลอด โดยเฉพาะพื้นที่ที่เส้นทางรถไฟฟ้าเปิดให้บริการแล้ว
แต่โครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ในช่วงที่ผ่านมาของปีนี้ยังคงเป็นโครงการที่มีราคาขายไม่สูงมากหรือไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อยูนิต หรือไม่เกิน 100,000 บาทต่อตารางเมตร
โดยเป็นคอนโดมิเนียมในระดับราคาไม่เกิน 80,000 บาทต่อตารางเมตรจะมีจำนวนมากที่สุด
ในขณะที่โครงการที่มีราคาขายมากกว่า 100,000 บาทต่อตารางเมตรขึ้นไปส่วนใหญ่จะมีราคาขายไม่เกิน 130,000 บาทต่อตารางเมตร
และมีโครงการที่มีราคาขายมากกว่า 130,000 บาทต่อตารางเมตรขึ้นไปเพียง 6% ของคอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ใน 3 ไตรมาสที่ผ่านมา
ผู้ประกอบการยังคงกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจในระยะยาว นอกจากจะชะลอการเปิดขายโครงการใหม่ลงไปในช่วงไตรมาสที่ 3
แต่ถ้าพิจารณาจากระดับราคาขายของคอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่จะเห็นได้ชัดเจนเลยว่า
ผู้ประกอบการต้องการเข้าถึงกำลังซื้อส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ซื้อที่มีรายได้ไม่สูงมาก
ซึ่งถ้าพิจารณาในช่วงปีพ.ศ.2563 ถึงปัจจุบันจะเห็นได้ชัดเจนเลยว่า
คอนโดมิเนียมในระดับราคาไม่เกิน 100,000 บาทต่อตารางเมตรหรือไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อยูนิตมีจำนวนมากกว่าคอนโดมิเนียมราคาขายมากกว่า 100,000 บาทต่อตารางเมตรแบบชัดเจนเมื่อเทียบกับช่วงก่อนปีพ.ศ.2563
อัตราการขายเฉลี่ยคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ใน 3 ไตรมาสที่ผ่านมาของปีพ.ศ.2566 ไม่สูงมากเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้
แม้ว่าหลายโครงการอาจจะมีข่าวว่าสามารถปิดการขายหรือมีอัตราการขายที่สูงมาก
บางโครงการมีคนมารอต่อคิวตั้งแต่ก่อนวันเปิดขายแบบเป็นทางการ หรือปิดการขายยูนิตที่เปิดขายแบบออนไลน์
โดยอัตราการขายเฉลี่ยอาจจะมีลดลงบ้างในช่วงไตรมาสที่ 3 เพราะหลายโครงการอาจจะเปิดขายแบบเงียบๆ ไม่มีการประชาสัมพันธ์หรือมีกิจกรรมใดๆ เลยในไตรมาสที่ 3
แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจอาจจะอยู่ในทิศทางของการปรับตัวที่ดีขึ้น แต่ปัจจัยลบหลายอย่างโดยเฉพาะในเรื่องของหนี้ครัวเรือน และปัญหาความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจระยะยาว
ซึ่งมีผลต่อเนื่องต่อการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยซึ่งเป็นการสร้างภาระในระยะยาว รวมไปถึงความเข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่อของธนาคารต่างๆ ล้วนมีส่วนในการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย
ส่งผลให้อัตราการขายเฉลี่ยของโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ไม่สูงมาก อีกทั้งคนที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยบางส่วนเลือกซื้อคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์
เพราะตรวจสอบได้ทันที อีกทั้งอาจจะมีส่วนลดเพิ่มเติมอีกด้วย
กำลังซื้อต่างชาติมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นแน่นอนในปีพ.ศ.2566 โดยคนจีนจะเป็นกลุ่มที่มีจำนวนมากที่สุดเช่นเดิม
ในตลาดต่างจังหวัดอาจจะเห็นกลุ่มผู้ซื้อชาวรัสเซียมากกว่าในกรุงเทพมหานคร