ช่วง 3 – 4 ปีที่ผ่านมาเป็นที่ชัดเจนว่าตลาดบ้านจัดสรรมีจำนวนยูนิตเปิดขายใหม่ในแต่ละปีมากขึ้น
โดยปีพ.ศ.2563 – 2564 มีจำนวนมากกว่าคอนโดมิเนียมหลายพันยูนิตเลย
ซึ่งเป็นไปตามภาวะตลาดที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัว
ผู้ประกอบการเลือกที่จะเปิดขายโครงการบ้านจัดสรรมากขึ้น
เพราะกลุ่มผู้ซื้อบ้านยังคงเป็นกลุ่มผู้ซื้อที่ต้องการโอนกรรมสิทธิ์มากกว่าคอนโดมิเนียม
แต่พอปีพ.ศ.2565 ผู้ประกอบการเงเปิดขายโครงการใหม่กันมากมาย
จนจำนวนรวม ณ ปีพ.ศ.2565 มากกว่า 3 – 4 ปีก่อนหน้านี้
โดยในระดับ 3 – 5 ล้านบาทต่อยูนิตเป็นระดับราคาของบ้านที่เปิดขายมากที่สุด
ซึ่งก็เป็นไปในทิศทางเดียวกับระดับราคาขายก่อนหน้านี้
แต่ที่น่าสังเกต คือ ความแตกต่างของจำนวนในระดับราคา 3 – 5 ล้านบาทต่อยูนิต และระดับราคา 2 – 3 ล้านบาทต่อยูนิต
มีช่องว่างที่มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเร่มเห็นได้ชัดในช่วงปีพ.ศ.2564 เป็นต้นมา
เพราะต้นทุนในเรื่องของราคาที่ดิน วัสดุก่อสร้างที่ราคาแพงขึ้น และอีกหลายปัจจัยมีผลต่อการปรับเพิ่มของราคาขายบ้านจัดสรร
และบ้านระดับราคามากกว่า 5 ล้านบาทต่อยูนิตมีจำนวนมากขึ้นในปีพ.ศ.2565 โดยเฉพาะในกลุ่มของระดับราคามากกว่า 10 ล้านบาทต่อยูนิตขึ้นไป