ขอวนเวียนอยู่ที่เมืองโฮจิมิณห์อีกสักวันนะครับ
เท่าที่เดินไปมา ในเมืองนี้มาหลายวันแล้วเห็นอะไรๆ หลายอย่างที่น่าสนใจ
สิ่งเเรกเลยคือ สายไฟลงดิน เหลือเพียงสายสื่อสารบางส่วนแถวชานเมืองเท่านั้น
อีกสิ่งที่ประทับใจ คือ ต้นไม้สองข้างทางที่มีขนาดใหญ่มากๆ บางต้นน่าจะเกินตึก 6 - 7 ชั้นไปแล้วอาจจะเพราะไม่มีสายไฟมาจำกัดความสูง
แต่ฟุตบาธในหลายๆ พื้นที่เดินยากเพราะหมดสภาพการใช้งานแล้ว
และหลายๆ พื้นที่ฟุตบาธกลายเป็นที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ และรถเข็นขายอาหาร รวมไปถึงตั้งโต๊ะเก้อี้สำหรับนั่งดื่มชา กาแฟ และทานอาหาร
โรงแรม 4 – 5 ดาวมีให้เห็นหมดไม่น้อยหน้ากรุงเทพมหานคร จำนวนอาจจะน้อยกว่าเท่านั้น
อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้าที่พัฒนาโดยบริษัทเกาหลี ญี่ปุ่น เช่น Lotte Shinhan Bank Aeon เป็นต้นมีเยอะกว่าในไทย
ศูนย์การค้าของเกาหลีจะมีแบรนด์ ร้านเกาหลีเยอะ ของญี่ปุ่นก็จะมีของญี่ปุ่นเยอะ แต่ก็มีแบรนด์อื่นๆ ด้วยนะ แต่โครงการที่พัฒนาโดยผู้ประกอบการเวียดนามจะมีของทั้งสองชาติ และของไทย รวมไปถึงอีกสารพัด
ของไทยมีเซ็นทรัล รีเทลที่เข้าไปในตลาดเวียดนาม 10 ปีได้แล้ว มีทั้ง ROBINS ที่เป็น Department Store และ GO ที่เป็น Hypermarket ที่มาแทนที่ Big C และกำลังจะมี GO ในไทยแล้วด้วย
แต่หลายโครงการสำนักงานและศูนย์การค้ามีขนาดไม่ใหญ่ โดยเฉพาะอาคารสำนักงานส่วนใหญ่ที่มี Floorplate อยู่ในช่วง 500 -1,000 ตารางเมตร
ค่าเช่าพื้นที่อาคารสำนักงานเกรด A ก็ใกล้เคียงกรุงเทพฯ ที่ประมาณ 1,000 บาทกว่าๆขึ้นไป
แต่ปัญหาใหญ่คือที่จอดรถที่มีจำนวนไม่เพียงพอและน่าจะเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคต นอกจากนี้หาที่จอดรถฟรีไม่เสียเงินยากมาก
การจราจรติดขัดเกือบทั้งวัน จำนวนรถบนถนนยิ่งดึกยิ่งคึกคัก เพราะคนโฮจิมิณห์ออกมาทานข้าว นั่งคุยกับเพื่อน แฮงเอาท์กันเวลากลางคืน
เพราะกลางวันอากาศร้อน และนั่งกันถึงดึกดื่นเที่ยงคืน
บางโครงการหมู่บ้าน หรือคอนโดมิเนียมในพื้นที่รอบๆ ดาวน์ทาวน์ เป็นแหล่งที่พักอาศัยของชาวต่างชาติซึ่งมีโรงเรียนนานาชาติรองรับด้วยนะ
ตอนนี้น่าจะต้องรอดูเมื่อเส้นทางรถไฟฟ้าเปิดให้บริการว่าจะลดปริมาณมอเตอร์ไซค์บนถนนลงไปได้มากน้อยแค่ไหน
แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ คนเวียดนามยังคาดเดาไม่ได้เลย