Home บทความ ตลาดอสังหาริมทรัพย์เมืองโฮจิมิณฑ์ ตอนที่ 3

ตลาดอสังหาริมทรัพย์เมืองโฮจิมิณฑ์ ตอนที่ 3

หลายๆ อย่างในโฮจิมิณห์ดูดีกว่ากรุงเทพมหานคร แต่บางอย่างยังต้องปรับปรุงพัฒนาต่อไป

ขอวนเวียนอยู่ที่เมืองโฮจิมิณห์อีกสักวันนะครับ

เท่าที่เดินไปมา​ ในเมืองนี้มาหลายวันแล้วเห็นอะไรๆ​ หลายอย่างที่น่าสนใจ

สิ่งเเรกเลยคือ​ สายไฟลงดิน​ เหลือเพียงสายสื่อสารบางส่วนแถวชานเมืองเท่านั้น

อีกสิ่งที่ประทับใจ​ คือ​ ต้นไม้สองข้างทางที่มีขนาดใหญ่มากๆ​ บางต้นน่าจะเกินตึก​ 6 -​ 7 ชั้นไปแล้วอาจจะเพราะไม่มีสายไฟมาจำกัดความสูง

แต่ฟุตบาธในหลายๆ​ พื้นที่เดินยาก​เพราะหมดสภาพการใช้งานแล้ว

และหลายๆ​ พื้นที่ฟุตบาธกลายเป็นที่จอดรถมอเตอร์ไซค์​ และรถเข็นขายอาหาร​ รวมไปถึงตั้งโต๊ะเก้อี้สำหรับนั่งดื่มชา กาแฟ​ และทานอาหาร

โรงแรม​ 4 – 5 ดาวมีให้เห็นหมดไม่น้อยหน้ากรุงเทพมหานคร จำนวนอาจจะน้อยกว่าเท่านั้น​

อาคารสำนักงาน​ ศูนย์การค้าที่พัฒนาโดยบริษัทเกาหลี​ ญี่ปุ่น​ เช่น​ Lotte Shinhan Bank Aeon เป็นต้นมีเยอะกว่าในไทย

ศูนย์การค้าของเกาหลีจะมีแบรนด์​ ร้านเกาหลีเยอะ​ ของญี่ปุ่นก็จะมีของญี่ปุ่นเยอะ​ แต่ก็มีแบรนด์อื่นๆ​ ด้วยนะ แต่โครงการที่พัฒนาโดยผู้ประกอบการเวียดนามจะมีของทั้งสองชาติ​ และของไทย​ รวมไปถึงอีกสารพัด

ของไทยมีเซ็นทรัล​ รีเทลที่เข้าไปในตลาดเวียดนาม​ 10 ปีได้แล้ว​ มีทั้ง​ ROBINS ที่เป็น​ Department Store และ​ GO ที่เป็น​ Hypermarket ที่มาแทนที่​ Big C​ และกำลังจะมี​ GO​ ในไทยแล้วด้วย

แต่หลายโครงการสำนักงานและศูนย์การค้ามีข​นาดไม่ใหญ่​ โดยเฉพาะอาคารสำนักงานส่วนใหญ่ที่​มี Floorplate อยู่ในช่วง​ 500 -​1,000 ตารางเมตร

ค่าเช่าพื้นที่อาคารสำนักงานเกรด​ A ก็ใกล้เคียงกรุงเทพฯ​ ที่ประมาณ​ 1,000 บาทกว่าๆ​ขึ้นไป

แต่ปัญหาใหญ่คือที่จอดรถที่มีจำนวนไม่เพียงพอ​และน่าจะเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคต นอกจากนี้หาที่จอดรถฟรีไม่เสียเงินยากมาก​

การจราจรติดขัดเกือบทั้งวัน​ จำนวนรถบนถนนยิ่งดึกยิ่งคึกคัก​ เพราะคนโฮจิมิณห์ออกมาทานข้าว​ นั่งคุยกับเพื่อน​ แฮงเอาท์กันเวลากลางคืน

เพราะกลางวันอากาศร้อน​ และนั่งกันถึงดึกดื่นเที่ยงคืน

บางโครงการหมู่บ้าน​ หรือคอนโดมิเนียมในพื้นที่รอบๆ​ ดาวน์ทาวน์ เป็นแหล่งที่พักอาศัยของชาวต่างชาติ​ซึ่งมีโรงเรียนนานาชาติรองรับด้วยนะ

ตอนนี้น่าจะต้องรอดูเมื่อเส้นทางรถไฟฟ้าเปิดให้บริการว่าจะลดปริมาณมอเตอร์ไซค์บนถนนลงไปได้มากน้อยแค่ไหน

แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่​ คนเวียดนามยังคาดเดาไม่ได้เลย