กลุ่มของนักลงทุนต่างชาติจากหลายประเทศเข้ามาในประเทศไทยเพื่อหาช่องทางในการซื้อกิจการต่างๆ ในประเทศไทย
กลุ่มของนักลงทุนที่เห็นได้ชัดเจนเลย คือ นักลงทุนจากประเทศจีน
ซึ่งเป็นกลุ่มที่เข้าซื้อหรือพยายามหาช่องทางในการเข้าซื้อกิจการหลายแห่งในมืองท่องเที่ยวที่คนจีนนิยม เช่น
พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ ในกรุงเทพมหานครอาจจะเป็นในรูปบบของการซื้ออสังหาริมทรัพย์มากกว่ากิจการ แต่ถ้ามีโอกาสพวกเขาก็สนใจซื้อเช่นเดียวกัน
นักลงทุนจากรัสเซียนี่เป็นกลุ่มของนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยนานแล้ว อาจจะลดน้อยลงไปบ้างในช่วงที่รัสเซียมีปัญหาเรื่องจองค่าเงินรูเบิล
แต่คนที่อยู่ในประเทศไทยก็ยังคงเดินหน้าขยายกิจการต่อเนื่อง
รัสเซียอาจจะซื้อหรือสนใจซื้อกิจการรวมไปถึงลงทุนใหม่ในเมืองท่องเที่ยวชายทะเลเป็นหลักทั้งในพัทยาซึ่งมีมานานแล้ว
ภูเก็ตเริ่มมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รวมไปถึงเมืองท่องเที่ยวชายทะเลอื่นๆ ที่อาจจะเริ่มเห็นบ้าง
กลุ่มของนักลงทุนจากกลุ่มประเทศจากสแกนดิเนเวีย เช่น นอร์เวย์ สวีเดน เดนมาร์ค กลุ่มนี้ในอดีตมีการลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งในบางแสน พัทยา ระยอง ห้วยยาง เกาะลันตา และภูเก็ต แต่เริ่มลดน้อยลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
กลุ่มของนักลงทุนจากตะวันออกกลางที่สนใจในธุรกิจโรงแรมในประเทศมานานแล้ว
โดยมีทั้งกลุ่มที่ต้องการโรงแรมเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจากประเทศแถบตะวันออกกลางโดยเฉพาะซึ่งมีวัฒนธรรมการกิน ศาสนาที่ค่อนข้างแตกต่าง
และกลุ่มที่เข้ามาซื้อโรงแรมเพื่อเป็นโรงแรมที่รองรับผู้เข้าพักทั่วๆ ไป
กลุ่มของนักลงทุนต่างชาติที่เริ่มเห็นมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คือ กลุ่มของนักลงทุนอินเดียที่เห็นได้มากขึ้นตามกระแสการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวอินเดียที่เข้ามาในประเทศไทย
แม้ว่าก่อนหน้านี้พวกเขาอาจจะมีการลงทุนในโรงแรมหลายแห่งกับคนไทยเชื้อสายอินเดียอยู่แล้วในพัทยาใต้
ซึ่งเป็นโซนที่มีโรงแรมที่พักที่รองรับนักท่องเที่ยวอินเดียโดยเฉพาะ รวมไปถึงร้านอาหาร และแหล่งท่องเที่ยวท่องเที่ยวยามราตรีบางแห่งที่รองรับนักท่องเที่ยวอินเดียที่มีความเฉพาะในหลายๆ เรื่อง
และกลุ่มของนักท่องเที่ยวประเทศอื่นๆ ก็จะไม่ค่อยอยู่รวมกับนักท่องเที่ยวอินเดียด้วย
แต่พอเจอสถานการณ์โควิด-19 หลายกิจการเกิดปัญหาและอาจจะมีการฟื้นตัวช้าเพราะกลุ่มลูกค้าหลักมีเพียงชาวอินเดียที่เพิ่งจะมีมากขึ้นในปีที่ผ่านมาซึ่งเข้ามาประเทศไทยมากถึงเกือบ 1 ล้านคนในปีพ.ศ.2565
รวมไปถึงมีการเข้ามาซื้อคอนโดมิเนียมและโอนกรรมสิทธิ์ในช่วงเดือนมกราคม – กันยายน พ.ศ.2565 อีก 172 ยูนิตจากที่แทบไม่เคยมีมาก่อนเลย
แสดงให้เห็นถึงการเข้ามาของกลุ่มของนักลงทุนและชาวอินเดียที่มากขึ้น
โดยส่วนมากกลุ่มของนักลงทุนอินเดียยังคงสนใจในตลาดพัทยาใต้หรือพัทยาสาย 3 โดยสนใจทั้งโรงแรมในระดับที่ไม่เกิน 3 ดาวมูลค่าการลงทุนไม่สูงมาก ร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยวกลางคืน
เพราะอย่างที่บอกไปว่ากลุ่มของนักท่องเที่ยวอินเดียอาจจะค่อนข้างเป็นกลุ่มที่มีความเฉพาะในหลายๆ เรื่อง เพียงแต่จำนวน และมูลค่าการลงทุนในทุกๆ มิติยังไม่มาก
แต่ที่น่าสนใจ คือ กลุ่มของคนมีฐานะในอินเดียที่ยังคงเข้ามาจัดพิธีแต่งงานในประเทศไทยต่อเนื่อง
โดยมากันครั้งละหลายสิบคนหรือมากกว่า 100 คนขึ้นไปถึงหลายร้อยคน และอยู่กันนานหลายวัน เรียกได้ว่าปิดทั้งโรงแรมเพื่อจัดงานแต่งงานกันเลย ซึ่งนักลงทุนอินเดียอาจจะมองในเรื่องนี้ก็เป็นไปได้