27.8 C
Bangkok
Friday, November 22, 2024

พื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวตอนเหนือ (หมอชิต – คูคต)

พื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวตอนเหนือ (หมอชิต – คูคต)

เป็นพื้นที่ที่มีการพัฒนามาก่อนหน้านี้มากกว่า 20 – 30 ปีแล้ว

โดยเฉพาะในพื้นที่รอบๆ ห้าแยกลาดพร้าวต่อเนื่องขึ้นไปถึงสี่แยกรัชโยธิน เสนานิคม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

จากนั้นจะเป็นส่วนของมหาวิทยาลัย สถาบันการศึกษา หน่วยงานราชการ พื้นที่ทหาร และวัดพระศรีมหาธาตุ

รวมไปถึงพื้นที่ที่มีข้อจำกัดในการพัฒนาอาคารเพราะอยู่ไม่ไกลจากสนามบินดอนเมือง

พื้นที่ที่อาจจะมีการพัฒนาเป็นชุมชนมาก่อนหน้านี้ในระยะเวลาที่ใกล้เคียงกับพื้นที่แถวๆ สี่แยกรัชโยธิน คือ พื้นที่แถวสี่แยกหลักสี่ขึ้นไปถึงสะพานใหม่

เพราะมีตลาดสดขนาดใหญ่ และมหาวิทยาลัย รวมไปถึงเป็นพื้นที่ที่ไม่ไกลจากศูนย์การค้าขนาดใหญ่

และไม่ไกลจากสถาบันการศึกษาต่างๆ ในพื้นที่โดยรอบ

ช่วงตั้งแต่ปีพ.ศ.2558 เป็นต้นมา จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงในพื้นที่ตลอดแนวเส้นทางมากกว่าก่อนหน้านี้

โดยช่วงก่อนปีพ.ศ.2558 อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในพื้นที่ตามแนวเส้นทางบ้าง แต่จะกระจุกตัวอยู่แค่เพียงบางพื้นที่เท่านั้น เช่น พื้นที่รอบๆ ห้าแยกลาดพร้าว รัชโยธิน สะพานใหม่ และคูคต

แต่หลังจากปีพ.ศ.2558 เป็นต้นมา เห็นได้ชัดเจนว่าพื้นที่อื่นๆ มีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของการเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียม เพราะพื้นที่ตลอดแนวเส้นทางนั้นมีราคาที่ดินที่ค่อนข้างสูง

เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีการพัฒนามาต่อเนื่องยาวนาน แทบหาที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ใดๆ ได้ยากมาก และพื้นที่ส่วนหนึ่งมีข้อจำกัดในการพัฒนา เพราะอยู่ไม่ไกลจากพื้นที่ทหาร และสนามบินดอนเมือง

ส่งผลให้มีข้อจำกัดในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์บางประเภท บางรูปแบบ

ดังนั้น จึงแทบไม่เห็นการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่นๆ ในพื้นที่ตลอดแนวเส้นทางเลย ยกเว้น โครงการคอนโดมิเนียม

ราคาที่ดินที่ปรับขึ้นมามากกว่าเท่าตัวจากก่อนหน้านี้ บางพื้นที่เช่น รอบๆ ห้าแยกลาดพร้าวราคาที่ดินขึ้นไปมากกว่า 1.5 ล้านบาทต่อตารางวาแล้ว รัชโยธินก็มากกว่า 1 ล้านบาทต่อตารางวาแล้วเช่นกัน

ในขณะที่รอบๆ วงเวียนหลักสี่ก็ไม่ต่ำกว่า 200,000 บาทต่อตารางวา ซึ่งมีผลต่อการตั้งราคาขายคอนโดมิเนียมในพื้นที่ด้วยเช่นกัน

คอนโดมิเนียมในพื้นที่ตั้งแต่ห้าแยกลาดพร้าวไปถึงมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ถ้าเป็นโครกงารที่ติดกับถนนพหลโยธินล้วนมีราคาขายที่มีมากกว่า 100,000 บาทต่อตารางเมตรไปแล้ว

หลายโครงการมีราคาขายมากกว่า 150,000 บาทต่อตารางเมตร แม้ว่าจะเป็นโครงการที่เปิดขายมาก่อนหน้านี้ 3 – 4 ปีแล้วก็ตาม

ผู้ประกอบการเข้ามาเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมในพื้นที่มากขึ้นแบบชัดเจนตั้งแต่ปีพ.ศ.2558 โดยมีจำนวนที่มากกว่า 5,000 – 6,00 ยูนิตต่อปีในช่วงระหว่างปีพ.ศ.2560 – 2561

จากนั้นก็ลดลงเพราะภาวะตลาดชะลอตัว และสถานการณ์โควิด-19 ในปีพ.ศ.2563 – 2564

โดยการที่ผู้ประกอบการเข้ามาเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมในช่วงปีพ.ศ.2560 – 2561 เพื่อให้สอดคล้องกับช่วงเวลาการเปิดให้บริการของเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวตอนเหนือ

ซึ่งเปิดให้บริการช่วงปลายปีพ.ศ.2563 จำนวนคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ตั้งแต่ปีพ.ศ.2558 เป็นต้นมา

ในพื้นที่ตั้งแต่สถานีรถไฟฟ้าห้าแยกลาดพร้าวต่อเนื่องขึ้นไปถึงสถานีคูคตมีจำนวนรวมทั้งหมด 22,120 ยูนิต โดยประมาณ 69% เป็นโครงการที่เปิดขายก่อนปีพ.ศ.2562 และอีกประมาณ 22% หรือกว่า 4,800 ยูนิตเปิดขายในช่วงครึ่งแรกของปีพ.ศ.2565

แม้ว่าจำนวนคอนโดมิเนียมในพื้นที่นี้จะมีไม่น้อย แต่อัตราการขายของคอนโดมิเนียมในพื้นที่นี้ก็ไม่น้อย หรือมากกว่า 85% แม้ว่าจะมียูนิตเหลือขายบ้าง แต่ก็กระจายอยู่ในหลายพื้นที่

และคาดว่าจะปิดการขายได้ในอีกไม่นาน เพราะโครงการเปิดขายใหม่ไม่ได้มากมายหรือมีต่อเนื่องในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

การเปลี่ยนแปลงในพื้นที่คงไม่มีอะไรมาก นอกจากจะมีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่มีการพัฒนามาต่อเนื่องนานแล้ว อาจจะมีโครงการขนาดใหญ่เกิดขึ้นก็เพียงบางพื้นที่เท่านั้น เช่น

พื้นที่ระหว่างห้าแยกลาดพร้าว และสี่แยกรัชโยธินที่มีที่ดินขนาดใหญ่ 2 แปลง คือ ที่ดินแดนเนรมิตเก่า 33 ไร่ และที่ดินของกลุ่มเซ็นทรัลประมาณ 48 ไร่ที่รอการพัฒนาอยู่ หรือที่ดินในทำเลอื่นๆ ที่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต

เพราะศักยภาพของที่ดินเปลี่ยนแปลงไป แต่ก็คงจะเห็นการเปลี่ยนแปลงแค่ในพื้นที่ตั้งแต่ห้าแยกลาดพร้าวขึ้นไปถึงรอบๆ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เท่านั้น

ถ้าเลยขึ้นไปที่อาจจะเห็นการเปลี่ยนแปลงก็คงเป็นพื้นที่ตั้งแต่สี่แยกหลักสี่ถึงคูคต เพราะพื้นที่บางส่วนที่หายไปติดขัดในข้อจำกัดในการพัฒนาทั้งในเขตทหาร และเรื่องของข้อจำกัดความสูงรอบสนามบินดอนเมือง

ช่วงตั้งแต่ปีพ.ศ.2561 เป็นต้นมา พื้นที่รอบสถานีรถไฟฟ้าสายหยุด สะพานใหม่เริ่มมีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่มากขึ้น

ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับพื้นที่รอบๆ สถานีรถไฟฟ้าอื่นๆ เพียงแต่พื้นที่รอบสถานีรถไฟฟ้าอื่นๆ อาจจะมีโครงการเปิดขายใหม่ต่อเนื่องมาโดยตลอดเท่านั้น

Recent Articles

TCMA ชูจุดแข็งอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ ผนึกรัฐ-อุตสาหกรรม-ชุมชน

TCMA ชูกระบวนการเผาร่วมในเตาเผาปูนซีเมนต์ (Co-processing in Cement Kiln) จุดเด่นด้านความปลอดภัย ช่วยลดก๊าซเรือนกระจกอย่างมีประสิทธิภาพ ลดพื้นที่ฝังกลบ พร้อมเร่งเดินหน้าผสานความร่วมมือเชื่อมโยงทุกระบบนิเวศในสังคม ร่วมกำจัดวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว (Waste) อย่างยั่งยืน ตามแนวคิดการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ (Zero Emission Concept)

ส่องรายได้ – กำไร 9 เดือน (บริษัทอสังหาฯบางราย) ของปี2567

ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังไม่นิ่งนอนใจ รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในรัฐบาลมีผลให้นโยบายและมาตรการต่างๆ ที่มีแผนจะอนุมัติหรือว่าประกาศใช้ต่อเนื่องมาตั้งแต่รัฐบาลก่อนหน้าต้องชะลอและเลื่อนออกไปจนถึงช่วงปลายของไตรมาส 3 ที่ผ่านมา แต่ด้วยกำลังซื้อบางส่วนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ยังมีอยู่ ประกอบกับมาตรการกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์จากรัฐบาลที่ประกาศใช้มาก่อนหน้านี้ รวมถึงการกระตุ้นกำลังซื้อของผู้ประกอบการหลายๆ รายผ่านกิจกรรมทางการตลาดที่หลากหลาย ส่งผลให้รายได้และผลกำไรเติบโตต่อเนื่อง และมากกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว นายสุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเอ็นเอ (Property DNA) กล่าวว่า...

เมืองไทยประกันชีวิต ผนึกกำลัง นายา และลิฟเวล

เมืองไทยประกันชีวิต เดินหน้าสร้าง Senior Ecosystem เข้าร่วมลงทุนใน นายา และลิฟเวล ผนึกกำลังยกระดับ โครงการ “นายาเรสซิเดนซ์ บาย ลิฟเวล” ขึ้นแท่นที่อยู่อาศัยสำหรับวัยอิสระ เติมเต็มความสุข ความอุ่นใจ พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการอย่างครบวงจร ตอกย้ำนโยบายการส่งเสริมคุณภาพชีวิตเพื่อก้าวสู่สังคมสูงวัยอย่างมีคุณภาพ  นายสาระ ล่ำซำ...

เอ็นริช ตามติดไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ เปิดตัวบ้านและโฮมออฟฟิศ

เอ็นริช เตรียมเปิดโปรเจกต์ใหม่ “ใกล้ เพชรเกษม-สาย 1”  KLAI Phetkasem-Sai 1 บ้านและโฮมออฟฟิศดีไซน์ใหม่ “ให้คุณใกล้ กับสิ่งที่ใช่” ด้วยการชูจุดเด่นเรื่องศักยภาพเชื่อมต่อสู่ใจกลางเมือง ใกล้สถานีรถไฟฟ้า โรงเรียนนานาชาติชื่อดัง และเข้าถึงทุกแหล่งไลฟ์สไตล์ได้อย่างสะดวกสบาย ตอบโจทย์ทุกการอยู่อาศัยได้อย่างลงตัว พร้อมให้คุณได้พิสูจน์ความใกล้ด้วยตัวคุณเอง ทำเลศักยภาพ พร้อมฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์...

ยกอสังหาริมทรัพย์ No.1 “Safe Heaven”

จากกระแสในช่วงที่ผ่านมา ที่มีการดีเบต เรื่องการลงทุนแบบไหนดีกว่ากัน ไม่ว่าจะเป็นเงินสด หุ้น และอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นมุมมองของแต่ละคนที่มีช่วงอายุต่างกัน ดังนั้นประสบการณ์และปัจจัยหลายๆ อย่าง ของแต่ละบุคคล ทำให้มุมมองและวิธีคิดแตกต่างกันไป ขณะที่การลงทุนในแต่ละรูปแบบนั้นก็มีทั้งข้อดีและข้อด้อย และสร้างผลตอบแทนที่แตกต่างกันทั้งสิ้น ขึ้นอยู่ที่ความพร้อม ความรู้ เงินลงทุน และความชอบ รวมไปถึงระยะเวลา และผลตอบแทนที่ต้องการได้ หรืออยากได้อะไรจากการลงทุน แต่ถ้าพิจารณายาวๆ แล้วอสังหาริมทรัพย์...