จำนวนคอนโดมิเนียมที่มีราคาเริ่มต้นที่มากกว่า 200,000 บาทต่อยูนิตขึ้นไปที่เปิดขายมาตั้งแต่ปีพ.ศ.2556 ในกรุงเทพมหานครมีจำนวนรวมทั้งหมดประมาณ 25,030 ยูนิต
โดยกว่า 75% เปิดขายในช่วงปีพ.ศ.2559 – 2562 แต่มากที่สุดในปีพ.ศ.2561 ซึ่งเป็นปีที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีการขยายตัวมากที่สุดในทุกระดับราคาขาย และในทุกทำเล
โดยเป็นคอนโดมิเนียมในระดับราคาขายในช่วงราคาขาย 200,000 – 249,999 บาทต่อตารางเมตรมากที่สุด คือ ประมาณ 45% โดยที่ส่วนของระดับราคา 300,000 บาทต่อตารางเมตรขึ้นไปมีสัดส่วนประมาณ 21%
ซึ่งสุดท้ายแล้วการเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมของผู้ประกอบการก็ยังคงสอดคล้องกับภาวะตลาดและกำลังซื้อเช่นเดิม เพราะยังมีสัดส่วนของคอนโดมิเนียมในระดับราคาเกิน 250,000 บาทต่อตารางเมตรมากกว่าระดับราคาขายอื่นๆ
ช่วงของสถานการณ์โควิด-19 ตั้งแต่ปีพ.ศ.2563 – 2565 ชัดเจนเลยว่าตลาดคอนโดมิเนียมชะลอตัวแบบรุนแรง
การเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมในระดับราคา 200,000 บาทต่อตารางเมตรก็ลดลงแบบชัดเจนตามภาวะการชะลอตัวของโครงการคอนโดมิเนียมในระดับอื่นๆ โดยเฉพาะในปีพ.ศ.2564 – 2565 ซึ่งเห็นได้ชัดเจนถึงการชะลอตัวของตลาดคอนโดมิเนียมราคาแพง
โดยปัจจัยสำคัญ คือ เรื่องของการชะลอตัวของกำลังซื้อคนไทย ประกอบกับยูนิตเหลือขายที่ยังอยู่ในสัดส่วนที่ค่อนข้างน่าเป็นกังวล
เพราะกลุ่มผู้ซื้อคนไทยในตลาดคอนโดมิเนียมราคาแพงมีขนาดที่ไม่ใหญ่มาก เมื่อเทียบกับคอนโดมิเนียมในระดับราคาอื่นๆ
รวมไปถึงกำลังซื้อของคนต่างชาติที่บางส่วนก็สนใจในตลาดคอนโดมิเนียมราคาแพงในกรุงเทพมหานครซึ่งหายไปเพราะสถานการณ์โควิด-19 โดยในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา
ผู้ประกอบการเลือกที่จะชะลอการเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ออกไปก่อน โดยเฉพาะในกลุ่มคอนโดมิเนียมราคาแพง และผู้ประกอบการเลือกที่จะเร่งปิดการขายโครงการที่สร้างเสร็จแล้วหรือใกล้เสร็จในช่วงที่ผ่านมา
โครงการคอนโดมิเนียมจำนวนมาก รวมไปถึงโครงการราคาแพงหลายโครงการจึงปิดการขายหรือมียูนิตเหลือขายลดลงเป็นจำนวนมาก