ไตรมาส 1 พ.ศ.2566 เป็นช่วงเวลาที่ตลาดที่อยู่อาศัยเริ่มมีสัญญานดีขึ้น เพราะปัจจัยลบหลายอย่างเริ่มลดลง ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคชาวไทยปรับตัวดีขึ้นมาก
แต่ถ้าพิจารณาถึงการเปิดขายโครงการใหม่จะเห็นได้ชัดเจนว่า “ลดลง” เนื่องจากผู้ประกอบการเลือกชะลอการเปิดขายโครงการใหม่เทียบกับไตรมาสแรกปีที่ผ่านมา ซึ่งยังเป็นช่วงเวลาที่มีปัจจัยลบจำนวนมากมีผลต่อภาวะตลาดอสังหาฯ มากกว่าปัจจุบัน
ผู้ประกอบการส่วนใหญ่โดยเฉพาะรายใหญ่ เน้นปิดการขายโครงการที่สร้างเสร็จแล้วมากกว่าเร่งเปิดขายโครงการใหม่ เพราะต้องการเงินจากการโอนกรรมสิทธิ์มากกว่ารายได้จากเงินจอง เงินทำสัญญาที่ได้จากการเปิดขายโครงการใหม่ซึ่งอาจจะน้อยกว่ามาก
ดังนั้น แม้ในช่วงไตรมาสที่ 1 พ.ศ.2566 ผู้ประกอบการหลายรายแสดงผลประกอบการทั้งรายได้และกำไรที่ดี แม้ว่าจะเปิดขายโครงการใหม่น้อยกว่าก็ตาม แสดงให้เห็นว่า รายได้และกำไรของผู้ประกอบการมาจากการโอนกรรมสิทธิ์มากกว่า
นอกจากนี้ การทำการตลาดในช่วงที่ผ่านมา ยังให้ความสำคัญกับโครงการบ้านจัดสรรที่มีระยะเวลาในการผ่อนดาวน์ หรือใช้เวลาไม่นาน เพียง 1-2 เดือนก็สามารถปิดการขายและโอนกรรมมสิทธิ์ได้เลย
และยังมีผู้ประกอบการหลายรายให้ความสำคัญกับตลาดคอนโดมิเนียมมากกว่า โดยเฉพาะในกลุ่มที่พร้อมโอนกรรมสิทธิ์ เพราะช่วงไตรมาส 1 พ.ศ.2566 มีการโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน
อย่างไรก็ตาม แม้รายได้ของผู้ประกอบการบางรายสูงกว่าปีที่แล้ว แต่ก็ยังมีผู้ประกอบการหลายรายที่มีรายได้ “ลดลง” ทั้งลดลงไม่มาก และลดลงมากอย่างชัดเจน
อาจยังต้องดูช่วง 3 ไตรมาสที่เหลือของปีนี้ เพราะผู้ประกอบการหลายรายมีโครงการพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ ดังนั้น ผู้ประกอบการบางรายที่มีผลประกอบการไม่ดีในไตรมาสแรก ยังมีเวลาในการปรับแผนแต่ยังต้องเฝ้าระวังปัจจัยลบอีกไม่น้อยที่มีผลต่อภาวะเศรษฐกิจ และการตัดสินใจซื้อของคน
ทั้งนี้ แนวโน้มไตรมาส 2 นี้ มีความเป็นไปได้ที่ผลประกอบการของผู้ประกอบการอาจ “ลดลง” หรือ เติบโตไม่เทียบเท่าปีก่อนหน้านี้ เพราะภาวะเศรษฐกิจ และความกังวลในหลายๆ ด้าน รวมถึงเป็นช่วงของการเปิดเทอมา และการเลือกตั้งที่อาจจะมีผลต่อการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย เพราะประสบการณ์ที่ผ่านมาหลังจัดตั้งรัฐบาลเสร็จสิ้นมักจะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ