คนจีนโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมในประเทศไทยในช่วงครึ่งแรก 2566 มากเป็นอันดับที่ 1

การที่คนจีนโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมในประเทศไทยในช่วงครึ่งแรกปีพ.ศ.2566 มากเป็นอันดับที่ 1 ไม่ใช่เรื่องใหม่

และน่าตกใจเท่าไหร่ เพราะเป็นแบบนี้มาต่อเนื่องมาหลายปี และคงจะมากแบบนี้ไปอีกนาน

เพราะเป็นผลพวงจากการที่คนจีนจำนวนมากเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากกว่า 1 – 2 ครั้ง

และโดยทั่วไปแล้วคนจีนที่มีเงินหรือมีรายได้มากพอที่จะเก็บออมส่วนใหญ่เลือกที่จะลงทุนในอสังหาริมทรัพย์

ก่อนหน้านี้พวกเขาอาจจะลงทุนซื้อคอนโดมิเนียมในประเทศจีนเพื่อการลงทุน แต่เมื่อรัฐบาลประเทศจีนเริ่มออกกฎระเบียบเพื่อควบคุมตลาดอสังหาริมทรัพย์

ทำให้การลงทุนคอนโดมิเนียมในประเทศจีนเป็นเรื่องไม่ง่ายแบบก่อนหน้านี้ อีกทั้งเมื่อเข้าสู่ช่วงโควิด-19 ปีพ.ศ.2563 เป็นต้นมา

ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ในประเทศจีนจำนวนมากมีปัญหาในเรื่องของเงินทุนหมุนเวียน

และมีผลต่อเนื่องไปยังกลุ่มผู้ซื้อจำนวนไม่น้อยที่จ่ายเงินไปแล้วทั้งหมด หรือบางส่วนแต่ยังไม่ได้บ้านหรือคอนโดมิเนียมจากผู้ประกอบการ

เพราะยังก่อสร้างไม่เสร็จ และหลายผู้ประกอบการหยุดการก่อสร้างโครงการตนเองไปแล้ว

กลุ่มคนจีนส่วนหนึ่งที่ยังต้องการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์จึงเลือกที่จะออกไปลงทุนหรือซื้ออสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ

โดยประเทศไทยเป็น 1 ในประเทศที่พวกเขาเลือกเป็นจุดหมายปลายทางในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์

เมื่อสถานการณ์หลายๆ อย่างในประเทศจีนไม่สะดวกต่อการลงทุนอสังหาริมทรัพย์อีกต่อไป

ซึ่งจากช่วงที่ผ่านมา มีทั้งคนจีนที่มีปัญหาเพราะเงินลงทุนของพวกเขาติดอยู่ในอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่สามารถส่งมอบได้จากปัญหาของผู้ประกอบการ

แต่ก็ยังมีคนจีนที่ต้องการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อยู่ ซึ่งกลุ่มคนจีนส่วนหนึ่งที่ยังต้องการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์จึงเลือกที่จะออกไปลงทุนหรือซื้ออสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ

โดยประเทศไทยเป็น 1 ในประเทศที่พวกเขาเลือกเป็นจุดหมายปลายทางในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์

นอกจากนี้ยังมีกลุ่มคนจีนที่เข้ามาทำงาน ทำธุรกิจ หรือมีกิจการต่างๆ ในประเทศไทย

อีกทั้งยังมีบางส่วนที่ซื้อเพื่อเป็นที่พักอาศัยของบุตรหลานที่เขามาเรียนหนังสือในระดับต่างๆ

จึงมีผลให้การโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมของคนจีนในประเทศไทยมีจำนวนมากเป็นอันดับที่ 1 ต่อเนื่องมานานหลายปีแล้ว

แม้ว่ารัฐบาลจะมีการกำหนดการโอนเงินออกนอกประเทศของคนจีนไว้ที่ 50,000 ดอลล่าร์สหรัฐต่อปีต่อคนหรือประมาณ 1,750,000 บาทก็ตาม

แต่ก็ยังมีการพยายามหาช่องทางต่างๆ กันเพื่อนำเงินออกมาซื้อคอนโดมิเนียมในประเทศไทย