28.2 C
Bangkok
Saturday, April 19, 2025

สรุปผลประกอบการของผู้ประกอบการ 10 รายแรก ในตลาดหลักทรัพย์ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาของปี พ.ศ. 2566

การประกอบธุรกิจสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าธุรกิจประสบความสำเร็จอาจจะต้องมองที่กำไรมากกว่ารายได้ เพราะกำไรหมายถึงส่วนที่เหลือจากต้นทุนและค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้ว ซึ่งถ้าพิจารณาผลประกอบการของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมดในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมานั้น แสนสิริสร้างกำไรได้สูงที่สุด โดยมีเอพีครองอันดับที่ 1 ในแง่ของรายได้  และมีความเป็นไปได้ที่แสนสิริจะทำกำไรได้มากเป็นอันดับที่ 1 ในปีนี้ เพราะดูจากโครงการที่รอโอนกรรมสิทธิ์ และที่จะเปิดขายใหม่ในช่วงต่อจากนี้ถึงสิ้นปี โดยในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมามีผู้ประกอบการเพียง 4 รายเท่านั้นที่ทำรายได้มากกว่า 20,000 ล้านบาท ผลประกอบการรวม 9 เดือนที่ผ่านมาในปีพ.ศ.2566 ของ 39 บริษัทผู้ประกอบการที่พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อขายในตลาดหลักทรัพย์มีรายได้รวมเพิ่มขึ้นประมาณ 1.37% ซึ่งอาจจะเพิ่มขึ้นไม่มากนัก แต่ถ้าพิจารณาในด้านของกำไรที่ลดลงประมาณ 6.37%  ซึ่งลดลงค่อนข้างมาก และน่าสนใจ ซึ่งการที่ทั้งรายได้และกำไรของผู้ประกอบการ 39 รายเปลี่ยนแปลงไปจากช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่แล้วตามที่กล่าวไปแล้วนั้น ส่วนหนึ่งมาจากการชะลอของกำลังซื้อในไตรมาสที่ 3 ซึ่งเห็นได้ชัดเจนจากรายได้รวมของทั้ง 39 บริษัท ณ ไตรมาสที่ 3 ของปี 2566 ลดลง 2.9% ในส่วนของกำไรลดลงถึง 20% ซึ่งผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 สะท้อนให้เห็นว่าการที่ผู้ประกอบการมีรายได้ลดลงไม่มาก อาจจะเป็นเพราะว่าช่วงไตรมาสที่ 3 พวกเขาพยายามสร้างรายได้โดยเฉพาะจากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการที่สร้างเสร็จแล้ว และมีการจัดโปรโมชั่นในเรื่องของราคาออกมาสร้างความน่าสนใจ ยอมลดกำไรลงบ้าง และมีการจัดกิจกรรมต่อเนื่องไปถึงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้เลย

ผู้ประกอบการที่มีกำไรมากที่สุดในช่วง 9 เดือนแรก ของปีพ.ศ.2566 คือ แสนสิริ ที่ทำกำไรเก็บยอดไปได้กว่า
4,760 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วกว่า 91% ส่วนรายได้ในช่วงเดียวกันได้ 28,046 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 28% ตามมาด้วยเอพีที่มีกำไรลดลงเล็กน้อย โดยมีกำไรประมาณ 4,719 ล้านบาท ส่วนของรายได้รวมประมาณ 28,921 ล้านบาทลดลงประมาณ 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ตามมาด้วยศุภาลัยในอันดับที่ 3
ด้วยกำไร 4,027 ล้านบาทลดลงจากปีที่แล้ว 34% ส่วนรายได้รวมประมาณ 21,537 ล้านบาท ลดลงจากปีที่แล้วกว่า 15%

ปีพ.ศ.2566 ตลาดอสังหาฯ เผชิญกับปัจจัยท้าทาย อาทิ  ปัญหาเรื่องของการขอสินเชื่อธนาคารเป็นปัจจัยสำคัญ และ
ทางผู้ประกอบการเองก็พยายามช่วยเหลือผู้ซื้อในทุกทางแล้วก็ตาม แต่ด้วยความเข้มงวดของสถาบันการเงินจึงยังมี
กลุ่มของผู้ขอสินเชื่อธนาคารที่ไม่ได้รับสินเชื่อเป็นสัดส่วนที่ไม่ต่ำกว่า 40 – 50% บางโครงการอาจจะมากกว่า 50%
ไปค่อนข้างมาก รวมไปถึงการได้วงเงินสินเชื่อจากธนาคารที่ต่ำกว่ามูลค่าของบ้านหรือคอนโดมิเนียมที่ต้องการซื้อ
ดังนั้น การลดการเปิดขายโครงการใหม่ลงก็เป็นทางออกที่ดีในสถานการณ์แบบนี้ จึงมีผลให้รายได้พวกเขาจากการเปิดขายโครงการใหม่ลดลง กำไรก็ลดลงบ้างเพราะอาจจะมีการลดราคาขายลง แต่ก็ยังมีผู้ประกอบการบางรายที่สร้างรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ปีพ.ศ.2566 อาจจะเป็นปีที่ภาวะเศรษฐกิจเพิ่งจะอยู่ในช่วงฟื้นตัวจากช่วงชะลอตัวปีพ.ศ.2563 – 2565 และปัญหาเศรษฐกิจในระดับต่างๆ ในช่วง 3 ปีดังกล่าวส่งผลกระทบต่อเนื่องมาถึงปีพ.ศ.2566 หลายธุรกิจอาจจะเพิ่งเริ่มเห็นการชะลอตัวในปีพ.ศ.2566 เนื่องจากช่วงก่อนหน้านี้ เศรษฐกิจในภาพรวมชะลอตัวหมดจึงไม่เห็นความแตกต่าง แต่เมื่อปัจจัยหลายๆ อย่างเริ่มดีขึ้นแต่บางอย่างยังมีผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจต่อเนื่องจึงเริ่มเห็นได้ชัดเจนขึ้น การฟื้นตัวแบบชัดเจนอาจจะยังต้องรอต่อไปถึงปีพ.ศ.2567 โดยเฉพาะนโยบายของรัฐบาลหลายอย่างที่คงต้องรอปีหน้า ปีพ.ศ.2566 อาจจะไม่ใช่ปีที่ดี แต่ผู้ประกอบการบางรายกลับสร้างกำไรและรายได้มากกว่าปีที่แล้วมากมายแบบชัดเจน อีกทั้งยังมีโครงการที่รอเปิดขายในไตรมาสที่ 4 อีกต่อเนื่อง เพราะผู้ประกอบการหลายรายมองเรื่องของการทำการตลาดระยะยาวมากกว่าไม่ได้ต้องการแค่เพียงปีพ.ศ.2566 ดังนั้น ปีพ.ศ.2567 จะเป็นปีที่การเปิดขายโครงการใหม่ทั้งบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีนี้ โครงการที่เปิดขายในไตรมาสที่ 4 ของผู้ประกอบการบางรายคงคาดหวังต่อเนื่องไปถึงปีหน้าไม่ได้คาดหวังว่าจะปิดการขายภายในปีนี้แน่นอน เพราะจำนวนและมูลค่าโครงการสูงมาก เช่น แสนสิริเปิด 22 โครงการมูลค่ารวม 36,000 ล้านบาท เอพีเปิดขายอีก 23 โครงการมูลค่ารวมกว่า35,740 ล้านบาท และที่น่าสนใจคือแลนด์แอนด์เฮ้าสที่จะเปิด 9 โครงการแต่มูลค่ารวมกว่า 45,000 ล้านบาท และอีกหลายรายที่มีมูลค่ารวมของโครงการที่จะเปิดขายในไตรมาสที่ 4 มากกว่า 10,000 ล้านบาท

Recent Articles

    ‘ดับบลิว เฮ้าส์’ เปิดเกมรุกตลาด Ultra-Luxury

‘ดับบลิว เฮ้าส์’ รับสร้างบ้านมาตรฐานสูง สไตล์โมเดิร์นหรู เดินเกมรุกตลาด Ultra-Luxury สร้างบ้านหรู 50-100 ล้านบาท เปิดตัวแบบบ้านซีรีส์ใหม่ ‘THE WORLD’ เชื่อมโยงตัวตนเจ้าของบ้านได้อย่างชัดเจน ครบทุกมิติ ทุกสไตล์ ทั้งดีไซน์ วัสดุ และ ฟังก์ชั่นการใช้งาน ตอกย้ำแบรนด์ ‘Lifestyle Architect’...

W House ตอกย้ำ 3 มาตรการสร้างบ้านมาตรฐานสูงรับมือแผ่นดินไหว

W House รับสร้างบ้านมาตรฐานสูง สไตล์โมเดิร์นหรู 15 ล้านบาทขึ้นไป ตอกย้ำ ‘บ้านที่มั่นใจได้ทุกหลัง’ ไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ชู 3 มาตรการคุณภาพ ‘ออกแบบบ้าน-คัดเลือกวัสดุ-กระบวนการก่อสร้าง’ รองรับแรงสั่นสะเทือนได้ดีตามหลักมาตรฐานสากล มุ่งเน้นความปลอดภัยสูงสุด พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตด้วยทีมงานมืออาชีพ ภายหลังเหตุการณ์อาคารถล่มจากเหตุแผ่นดินไหวในกรุงเทพฯ และผลกระทบที่เกิดขึ้นกับคอนโดมิเนียมรวมถึงอาคารสูงในหลายจังหวัด ทำให้ประเด็นด้านความปลอดภัยได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก...

เปิดอาณาจักร ‘Boutique Developer’A NEW ERA OF URBAN LIVING EXPERIENCES

นับหนึ่งถึงร้อย กว่าจะสร้างผลงานแต่ละชิ้นของ นายณ์ เอสเตท (NYE ESTATE) จากจุดเริ่มต้นถึงวันนี้12 ปีของการเดินทาง มุ่งมั่นการทำธุรกิจที่ทุ่มเทใส่ใจทุกรายละเอียด ฉบับ Breaking New Ground เพื่อบ้านคุณภาพชีวิตดี สร้างความสุข และส่งต่อมรดกที่มากคุณค่าจากรุ่นสู่รุ่น ใส่ใจและประณีตในทุกรายละเอียด

‘Landy Grand’ ผู้อยู่เบื้องหลังผลงานสร้างบ้านหรูของนักธุรกิจ เซเลบ และดาราดัง!

‘Landy Grand’ เปิดเกมรุกตลาดรับสร้างบ้านลักซ์ชัวรี ตอกย้ำแบรนด์บริษัทรับสร้างบ้านที่อยู่เบื้องผลงานสร้างบ้าน    ของ ‘นักธุรกิจชั้นนำ เซเลบ ดาราดัง’ ชูแนวคิด ‘Customize Your Luxury Lifestyle’ เนรมิตบ้านสั่งสร้างหลังใหญ่ ดีไซน์เหนือระดับ สะท้อนเอกลักษณ์เจ้าของบ้าน พร้อมนวัตกรรมป้องกันฝุ่น และบริการครบวงจร ตั้งเป้ายอดขายทะลุ...

สร้างบ้านยุคนี้ต้องมีระบบแรงดันบวก Positive Pressure ป้องกัน PM 2.5

แลนดี้ โฮม ผู้นำธุรกิจรับสร้างบ้านรายแรกและรายเดียวในสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ที่ติดตั้ง CAP+ (Clean Air Positive Pressure) ระบบแรงดันบวก ป้องกันฝุ่น PM 2.5  เพื่อให้บ้านปลอดฝุ่นตั้งแต่ต้นทาง พร้อมเติม Fresh Air ให้อากาศหมุนเวียนอย่างสะอาดโดยไม่ต้องเปิดหน้าต่าง ลดฝุ่น ลดเชื้อโรค และลดปัญหาภูมิแพ้ นับเป็นมาตรฐานใหม่ที่ทุกบ้านต้องมีในยุคปัจจุบัน