คอนโดมิเนียม

ในกรุงเทพมหานครถ้าพิจารณาว่าพื้นที่ใด ทำเลใดที่มีการเปลี่ยนแปลงต่อเนื่องมาโดยตลอดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และในอนาคตอีก 4 – 5 ปี คงต้องนึกถึงพื้นที่ตามแนวถนนพระราม 4 ตั้งแต่หัวลำโพงไล่ไปถึงสี่แยกคลองเตย โดยเฉพาะช่วงตั้งแต่แยกศาลาแดงแถวสีลมไปจนถึงสี่แยกคลองเตย เพราะพื้นที่นี้เป็นพื้นที่ที่มีโครงการขนาดใหญ่เกิดขึ้น 3 โครงการด้วยกัน และใหญ่ขนาดที่ว่าใช้เงินลงทุนในการพัฒนาโครงการรวมกันกว่า 200,000 ล้านบาท พื้นที่อาคารที่กำลังก่อสร้างรวมกันมากกว่า 1.5 ล้านตารางเมตร...

เส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวตอนเหนือ (หมอชิต – คูคต) บางช่วงไม่สามารถพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ได้ หรือมีข้อจำกัดในการพัฒนา เช่น เรื่องของความสูงอาคาร และโครงการบางประเภท พื้นที่ตั้งแต่สถานีบางบัวเป็นต้นไปถึงสถานีวัดพระศรีมหาธาตุหาที่ดินของภาคเอกชนเพื่อพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ได้ยากมาก เนื่องจากมีทั้งหน่วยงานราชการ วัดขนาดใหญ่ สถาบันการศึกษา...

เส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวตอนเหนือช่วงห้าแยกลาดพร้าว – คูต เปิดให้บริการแบบสมบูรณ์ตอนปลายปีพ.ศ.2563 แต่ก่อนหน้านั้นกระตุ้นให้เกิดการลงทุนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมกันมาโดยตลอด เพราะเป็นเส้นทางที่อยู่ในแผนการพัฒนามาหลายปีก่อนหน้านี้แล้ว อนที่เส้นทางรถไฟฟ้าจะเปิดให้บริการนั้น มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายบ้าง เพียงแต่อยู่ในบางทำเลเท่านั้น เช่น ห้าแยกลาดพร้าว รัชโยธิน รอบมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สะพานใหม่ เป็นต้น

ช่วงเวลาที่การก่อสร้างเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงเตาปูน – ท่าพระ – หลักสองมีความคืบหน้าเป็นรูปธรรม เริ่มมีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายมมากขึ้นในพื้นที่ตามแนวเส้นทาง ซึ่งเห็นได้ชัดเจนตั้งแต่ปีพ.ศ.2557 เป็นต้นมา เมื่อเส้นทางรถไฟฟ้าเปิดให้บริการครบทั้ง 2 เส้นทางแล้วในปีพ.ศ.2562 – 2563 จึงมีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายลดลง เพราะหลายโครงการยังไม่สามารถปิดการขายได้

ประมาณ 10 ปีก่อนหน้านี้ เคยเขียนบทวิเคราะห์ว่า ราคาขายคอนโดมิเนียมใน CBD ของกรุงเทพมหานครจะมากกว่า 200,000 – 300,000 บาทต่อตารางเมตร ราคาขายแบบ 100,000 บาทต่อตารางเมตรจะเป็นราคาทั่วไปที่เห็นได้ทั่วกรุงเทพมหานคร

คอนโดมิเนียมหลายโครงการที่เปิดขายในไตรมาสที่ 1 พ.ศ.2565 มีอัตราการขายที่ค่อนข้างสูง อาจจะไม่ถึงกับปิดการขายแบบ 100% แต่ก็มากกว่า 60 – 70% ในบางโครงการ เพราะราคาขายที่ไม่สูงมาก และทำเลที่ตั้งโครงการยังสามารถปรับราคาเพิ่มขึ้นได้อีกในอนาคต

ผู้ประกอบการให้ความสำคัญกับโครงการคอนโดมิเนียมในระดับราคาไม่เกิน 100,000 บาทต่อตารางเมตรต่อเนื่องมาโดยตลอดในช่วงหลายไตรมาสที่ผ่านมา ช่วงก่อนปีพ.ศ.2563 ยังมีโครงการคอนโดมิเนียมในระดับราคาขายที่หลากหลาย ผู้ประกอบการกระจายเปิดขายโครงการใหม่ในหลายระดับราคา แม้ว่าสัดส่วนของโครงการราคาขายต่ำกว่า 100,000 บาทต่อตารางเมตรจะมากว่าระดับราคาอื่นๆ แต่เมื่อเกิดวิกฤตโควิด-19 โครงการคอนโดมิเนียมในระดับราคาขายอื่นๆ มีน้อยลงมาก หรือไม่มีเลย

ผู้ประกอบการเกือบทุกรายที่เปิดขายโครงการใหม่ในไตรมาสที่ 1 พ.ศ.2565 ให้ความสำคัญกับโครงการในระดับราคาขายไม่เกิน 100,000 บาทต่อตารางเมตรแบบชัดเจน เพราะกว่า 78% อยู่ในระดับราคานี้ และเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ในไตรมาสที่ 1 พ.ศ.2561

จำนวนคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ในไตรมาสที่ 1 พ.ศ.2565 มีจำนวนประมาณ 15,000 ยูนิต มากกว่าจำนวนยูนิตเปิดขายใหม่ทั้งปีของปีที่แล้ว และเกือบเท่ากับจำนวนทั้งปีของ 2 ปีก่อนหน้านี้ ซึ่งถ้าพิจารณาเป็นรายไตรมาสก็มีจำนวนมากกว่าหลายไตรมาสที่ผ่านมาแบบชัดเจน ซึ่งจำนวนที่เปิดขายขายแบบไม่เป็นทางการนั้นมากกว่านี้อีกหลายพันยูนิต

ตอนช่วงปลายปีที่แล้วคาดการณ์กันว่าปีนี้ตลาดคอนโดมิเนียมคงไม่คึกคัก แต่ที่ไหนได้ กลายเป็นว่าหลายๆ บริษัทขนโครงการคอนโดมิเนียมออกมาขายกันเต็มไปหมด ทั้งในกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และเมืองท่องเที่ยว กรุงเทพมหานครอาจจะมีแต่โครงการที่อยู่ในพื้นที่ไกลออกไปจาก CBD มีแต่โครงการราคาไม่แพงๆ...